Les nouveautés et Tutoriels de Votre Codeur | SEO | Création de site web | Création de logiciel

seo แนะนำ Add-On ตรวจสอบ DoFollow และ NoFollow 2013

Seo Master present to you:
เป็นบทความ SEO ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ ในเมื่อเราทราบถึงรายละเอียดชนิดและประเภทที่เกี่ยวกับ Link DoFollow และ NoFollow กันไปแล้วที่นี่เราจะทราบได้อย่างไรว่าเว็บที่เราฝากลิงค์ไว้เป็น Backlink ชนิดไหนกันแน่ วิธีการตรวจสอบจริงๆมีหลายวิธี แต่บทความนี้ เราขอแนะนำเครื่องมือ หรือ Tool ที่เอาไว้ตรวจสอบชนิดและประเภทของลิงค์ DoFollow และ NoFollow กันแถมใช้งานได้ง่ายมากเพียงแค่คลิ๊กไม่กี่คลิ๊ก ติดตั้งได้ไม่ยาก และที่สำคัญฟรีครับผม!! เครื่องมือตัวนี้เป็น Add-on ของ FireFox ไปโหลดกันเลย NoDoFollow (ตัว Update สามารถใช้งานกับ FireFox 11 ได้ครับ) หลังจากทำการติดตั้งด้วยขั้นตอนง่ายๆ เรามาดูวิธีใช้งานกันง่ายไม่แพ้ขั้นตอนติดตั้งเลยโดยหาพื้นที่ว่างบนหน้า Page ที่เราจะทำการตรวจสอบแล้วคลิ๊กขวาเลือกคำสั่ง NoDoFollow จะมีแถบสีที่ขึ้นบริเวณที่เป็นลิงค์ ถ้าเป็น Highlight สีน้ำเงินจะเป็นลิงค์ชนิด DoFollow แต่ถ้าเป็นแถบสีหรือ Highlight สีแดงจะเป็นลิงค์ชนิด NoFollow ครับ เป็นเครื่องมืออีกหนึ่งตัวซึ่งจำเป็นมากๆครับสำหรับการทำ SEO2013, By: Seo Master

seo 10 จุดสุดยอดในการใช้ Keyword ในการทำ SEO 2013

Seo Master present to you:
การใช้ Keyword ในการทำ Search engine Optimization หลายคนที่เป็นมือใหม่ อาจจะไม่มั่นใจหรือใช้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวทางให้สำหรับ ผู้ที่ยังไม่มั่นใจหรือยังไม่รู้ว่าจะใช้ยังไง ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ อย่ามัวเสียเวลาครับเริ่มต้นกันเลยดีกว่า
1. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหน้าเพจ (Title) ให้เราใส่ Keyword ที่เราต้องการจะใส่โดยให้น้ำหนักจากการเรียงจาก ซ้ายไปขวา ตัวอย่างการใช้งาน [title] keyword หลัก, keyword รอง, keyword อื่นๆ [/title] เป็นต้น
2. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหัวข้อของเนื้อหา (Heading Tag) โดยการใช้ h1,h2,h3 เป็นต้น ตัวอย่างการใช้งาน [h1] Keyword [/h1] หรือ [h2] Keyword [/h2] เป็นต้น
3. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ Keyword ไว้ในตำแหน่ง 20 คำแรกโดยประมาณ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงก็ได้ ตัวอย่างการใช้งาน [body][p] Keyword [/p][/body]
4. ใช้ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน (Standard Text Link) คือการเชื่อมโยงในลักษณะ การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย ตัวอย่างการใช้งาน [a href="http://www.yoursite.com"] Keyword [/a]
5. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนสุดท้ายของหน้า (The Last Content) เพื่อเน้นย้ำ หรือใช้ในการสรุปเนื้อหา อาจจะใช้เป็นลักษณะตัวเอียงหรือหนาก็ได้ครับ ตัวอย่างการใช้งาน [p] Keyword [/p] [/body]
6. ใช้ keyword ที่บริเวณ เมนูเลื่อนลง (Drop Down Menu) Drop Down Menu นี้เป็นที่ซ่อน Keyword ที่ดีอีกที่ที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ ตัวอย่างการใช้งาน [form] [option] Keyword [/option] [/form]
7. ใช้ keyword ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ (Folder Name, File Name) วิธีนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจพอสมควรครับ กับการทดลองใช้ในหลายๆเว็บที่ผมลอง หากต้องใช้ Keyword มากกว่า 1 พยางค์ ควรใช้เครื่องหมาย "-" เป็นตัวคั่นกลาง ตัวอย่างการใช้งาน /Keyword/Keword.html,Keyword.jpg หรือ Keyword1-Keyword2.html
8. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบายรูปภาพ (Images Alt Tag) การ ใช้ Tag Alt เข้าช่วยนั้นเพราะว่า Serach Engine นั้นไม่รู้จักรูปภาพเราสามารถบอก Search Engine รู้ว่าภาพนั้นเป็นภาพของอะไรได้โดยใช้ Tag Alt นี้เข้าช่วย ตัวอย่างการใช้งาน [img src="images address" alt="Keyword"]
9. ใช้ keyword ที่บริเวณคำอธิบาย ลิงค์ (Text Link Title) การใช้ Text Link Title นั้นคล้ายการใช้ Tag Alt เพียงแต่ Tag นี้ใช้อธิบาย Link ตัวอย่างการใช้งาน [a href="http://www.yoursite.com" title="Keyword"]Keyword [/a]
10. ใช้ Keyword จด Domain name ด้วย Keyword (Domain Name Register) การใช้ Keyword หลักของเว็บในการจด Domain Name นั้นหากทำได้ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ

เครดิต ThaiSeo2013, By: Seo Master

seo 10 ขั้นตอน ในเรื่องของ Keyword กับการทำ OnPage SEO 2013

This summary is not available. Please click here to view the post.

seo ตรวจสอบ SEO Onpage ด้วย SEO Doctor 2013

Seo Master present to you:
SEO Doctor
หลายต่อหลายครั้งที่เราได้ทำ SEO Onpage ให้กับเว็บไซต์ของเราแต่อยากทราบว่าสิ่งที่เราทำมันถูกต้องและดีพอหรือยัง? จะหาเว็บไซต์ที่ตรวจสอบ SEO Onpage ก็ยุ่งยากบางทีเว็บล่มบางทีก็ประมวลผลช้าเสียเวลาและไม่แม่นยำเท่าที่ควร! นึกฝันอยากจะได้เครื่องมือตรวจสอบ On Page ที่บอกรายละเอียดสำคัญๆต่างๆให้เราได้ทราบบ้าง อะไรที่มันรวดเร็วทันใจ! ต่อจากนี้ไปปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วย Add on for Firefox นั้นก็คือ SEO Doctor (คลิ๊กโหลดได้เลยครับ) หลังจากทำการติดตั้ง SEO Doctor เสร็จสมบูรณ์แล้ว เราก็ไปดูขั้นตอนและวิธีใช้งานของ Add On ตัวนี้ว่ามีทีเด็ดและลูกเล่นอะไรให้เราได้ใช้กันบ้างไปดูกันเลยครับ

สังเกตว่าจะมีสัญลักษณ์รูปธงอยู่บริเวณด้านบนช่อง URL ครับ

SEO Doctor Flag

สังเกตจะมีสัญลักษณ์รูปธงอยู่บริเวณซ้ายล่างเช่นเดียวกัน และมีรายละเอียดต่างๆดังรูป

SEO Doctor Details

ที่นี่เรามาดูรายละเอียดในส่วนต่างๆของ SEO Doctor กันครับส่วนแรก SEO Score ก็คือจะเป็นคะแนนการทำ SEO Onpage ของเว็บไซต์ของเรา โดยจะมีคะแนนเต็มเที่ยบเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ 100% หรือเราสามารถตรวจสอบได้จากสัญลักษณ์รูปธงก็ได้

SEO Doctor Green Flagธงสีเขียว ความหมายคือ SEO Onpage ทุกอย่างสมบูรณ์แบบได้คะแนนเต็ม

SEO Doctor Yellow Flagธงสีเหลือง ความหมายคือ มีส่วนที่ต้องปรับปรุง ที่ควรแก้ไขบ้างเล็กน้อยบางจุด

SEO Doctor Red Flagธงสีแดง ความหมายคือ ต้องปรับปรุงแก้ไขเป็นการด่วนครับ

SEO Doctor No Index
Icon - ความหมายคือ หน้าหรือ Page นี้ยังไม่ถูก Index เลยไม่มีข้อมูล

ในส่วนนี้เรามาดูหลักเกณฑ์และวิธีในการคิดคะแนนของ SEO Doctor กันครับจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้เราสามารถที่จะคลิ๊กดูคะแนนหรือ SEO Score ได้โดยวิธีที่ 1. โดยกดบริเวณสัญลักษร์ที่เป็นรูปธงตรงแถบ URL วิธีที่ 2. คลิ๊กบริเวณที่แถบด้านซ้ายล่าง จะมีรายละเอียดต่างๆดังรูปต่อไปนี้

SEO Doctor Score

1. Page Indexable - หน้า Page ได้รับการ index หรือยัง?

2. Meta Description - มีการใส่ Meta Description หรือยัง?

3. H1 And H2 Tags - ควรจะมีการใช้ คำสั่ง H1 และ H2 ครับ

4. ALT Image Tag - ควรใส่ ALT Tag ให้กับรูปภาพต่างๆ

5. SEO Friendly URLs - URL เป็นประโยชน์ในการสื่อความหมายและก่อให้เกิดความเข้าใจ

6. Title Tag - Titile ควรมีอักษรตั้งแต่ 11 ถึง 70 ตัวอักษร และ Title ควรเกี่ยวข้องกับ keyword

7. Number of links - จำนวน Link ในหนึ่งหน้าไม่ควรมากกว่า 100 Links ครับ

8. Page Rank Flow - จำนวน % ของ Link ที่ไหลออกครับ

9. Loading Time - เวลาที่ใช้ในการโหลด Page ยิ่งเร็วยิ่งดีครับ

10. Web analytics - ควรจะติด Google Analytics ครับ

สรุปจากรายละเอียดทางด้านบนแล้วเราควรปรับแต่ง SEO Score ให้ได้คะแนนออกมาสูงๆหรือออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ แต่โดยมุมมองส่วนตัวแล้ว SEO Doctor ไม่ใช่เครื่องมือที่สามารถที่จะวัดการทำ SEO On Page ที่บอกได้ตรงและถูกต้องจริงๆเป็นแค่เพียงแนวทาง เพราะยังมีปัจจัยอีกหลายๆอย่างอีกมากมายในการทำ SEO On Page อย่างไรก็ตามก็ยังแนะนำให้ลองศึกษาเรื่อง SEO และให้ความสำคัญกับส่วนอื่นๆด้วย

เครดิต : Thaiseoboard Consensus2013, By: Seo Master

seo SEO On Page Optimization 2013

Seo Master present to you:
การปรับแต่งเว็บไซต์เกี่ยวกับปัจจัยภายใน หรือส่วนต่างๆ ของหน้าเว็บไซต์ ได้แก่ การวางโครงสร้างเว็บไซต์ การเขียน Code ในหน้า เว็บเพจ การเขียนเนื้อหาให้เหมาะกับ Search Engine และการกระจาย Keyword ในส่วนต่างๆ
1. ในส่วนของการตั้งชื่อ Title ของหน้าเว็บว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร และไม่ซ้ำกันในแต่ละหน้า (Title Tag)
2. ใช้ Meta keyword และ description ข้อความอธิบายเกี่ยวกับเว็บไซต์ (Meta Tag)
3. การปรับปรุงโครงสร้าง URL ของเว็บ (การกำหนดรูปแบบ URL, การตั้งชื่อ Directory, Files)
4. การทำระบบนำทางในเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย แผนผังเว็บไซต์ สำหรับ Human และ Robot
5. การเขียน เรียบเรียงเนื้อหาให้เหมาะกับการทำ SEO
6. การทำลิงค์เชื่อมโยงเนื้อหา Inbound-Links
7. การใช้ Tag หัวข้อให้เหมาะสม (Heading Tag)
8. การเน้นคำ (Bold/Strong Tags) ตัวเอียง (Italic)
9. การใช้ลิสต์รายการ
10. การใช้รูปภาพอย่างเหมาะสม ไม่ลืมที่จะใส่คำอธิบาย "Alt", "Title"
11. การป้องกันข้อมูลในเว็บไซต์ด้วย robots.txt
12. Outbound-Links ลิงค์เชื่อมโยงออกภายนอกในจำนวนที่เหมาะสม
13. Density of Keywords ความถี่ หรือความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม2013, By: Seo Master
Powered by Blogger.