Les nouveautés et Tutoriels de Votre Codeur | SEO | Création de site web | Création de logiciel

seo แนะนำวิธีค้นหาและสร้าง Backlink ง่ายๆ 2013

Seo Master present to you:
วันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องมือและวิธีการค้นหาและสร้าง Backlink ง่ายๆนะครับ เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับ Backlink ที่เชื่อมโยงมาจากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ เกี่ยวข้องกัน หรือสอดคล้อง ดังนั้นเราควรไปฝาก Link ไว้กับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงกับเว็บไซต์ของเราเพราะเราจะได้ SEO Score จากตรงนี้ส่งผลให้ อันดับผลการค้นหาของเราดีขึ้น เราไปดูเครื่องมือตัวนี้กันเลยกับเว็บไซต์ Dropmylink คลิ๊กเลย ขั้นตอนก็ง่ายๆและฟรีอีกเช่นเคย ในการค้นหาก็เพียงแค่ใส่ Keyword ที่เราต้อง การจะค้นหาลงในช่อง Keyword ในส่วนของช่อง Find ก็คือวิธีการค้นหา Backlink จากที่ไหนจะมี Drop Down Menu ให้เลือก โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. .edu Blogs ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากการ Comment Blog ที่มี สกุล .edu ย่อมาจาก Education ซึ่งเป็นเว็บไซต์ หรือ Blog ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่ง Google ให้คะแนนความเชื่อถือจากตรงนี้มาก
2. .gov Blogs ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากการ Comment Blog ที่มี สกุล .gov ย่อมาจาก government ซึ่งเป็นเว็บไซต์ หรือ Blog ที่เกี่ยข้องกับหน่วยงานของรัฐบาล เช่นเดียวกัน Google ให้คะแนนความน่าเชื่อถือและความสำคัญจาก Backlink ที่มาจาก .gov สูง
3. KeywordLuv Blogs ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากการ Comment Blog ที่มีการใช้ Plug-in KeywordLuv ซึ่งจะได้ Backlink แบบ Dofollow
4. Directories Add Site, Add URL, Add Website ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากเว็บจำพวก Directories หรือสารบัญเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งเว็บประเภทนี้จะเก็บรวบรวมเว็บไซต์ต่างๆ แยกออกเป็นกลุ่ม และหมวดหมู่ย่อย
5. Squidoo Lenses ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากเว็บไซต์ Squidoo Lenses
6. Hubpages ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากการ Comment เว็บไซต์ hubpages.com
7.Angela's Backlinks ค้นหาและสะกดรอยตามเพื่อสร้าง BL PR สูงหรือลิงค์คุณภาพ ตาม Angela's Backlinks
ก็เลือกการค้นหาในช่อง Find ตามความต้องการของเราเลยครับ แล้วก็หาวิธีสร้าง BL ไม่ยากใช่ไหมครับกับเครื่องมือค้นหา BL ตัวนี้ เบาแรงไปได้เยอะเลย ลองทดสอบและเล่นกันดูครับเผื่อจะต่อยอดอะไรได้อีกจากตรงนี้ครับ2013, By: Seo Master

seo Keyword Density คืออะไร ? ตอนที่ 2 2013

Seo Master present to you:
ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการจำกัด % ของ Keyword Density เนื่องจาก การที่หน้าเวบของคุณมีความหนาแน่นมากๆ เหล่า Search Engine จะเพ่งเล็งเว็บของคุณเป็นพิเศษ เพราะนั่นถือว่าคุณกำลัง Spam Keyword เพื่อให้บอทอ่านมากเกินไปนั่นเอง ทั้งนี้ การคิด เปอร์เซ็นต์ Keyword นั้น ทุกๆ Search Engine จะไม่สนใจ พวก Stop Words และ Stop Phrases นะครับ Stop Words หรือ Stop Phrases คืออะไร ? ก็คือ คำที่ไม่เกี่ยวข้องในเนื้อหา ไม่มีความหมายซึ่งจะสามารถเป็น Keyword ได้ เช่นพวก a, is, the, so, that, this, are เป็นต้น ซึ่งสิ่งที่เราควรทราบก็คือ เครื่องมือวิเคราะห์เปอร์เซ็นต์ความหนาแน่นส่วนใหญ่ นั้น ไม่ฉลาดพอที่จะตัดพวก Stop Words เหล่านี้ทิ้งไป ในการคำนวณ Keyword Density ดังนั้นหมายความว่า ค่าเปอร์เซ็นต์ Keyword Density ที่เราวิเคราะห์ได้จากเครื่องมือ กับ Search Engine จะมีค่าไม่เท่ากัน (%ที่ Search Engine คิดได้จะสูงกว่าพวกเครื่องมือวิเคราะห์เหล่านี้ เพราะมีตัวหารน้อยกว่า) ทีนี้คงเข้าใจเรื่องราวของ Keyword Density พอสมควรแล้วนะครับ ไปปรับแต่งกันได้เลย ส่วนตัวผมปรับประมาณ ไม่เกิน 7% เท่านั้นเองครับ แนะนำเครื่องมือช่วยตรวจสอบความหนาแน่นของ Keyword ครับ Keyword Checker

เครดิต Seosamutprakarn2013, By: Seo Master

seo Keyword Density คืออะไร ? ตอนที่ 1 2013

Seo Master present to you:
Keyword Density คือความหนาแน่นของคำสำคัญ หรือ คีย์เวิร์ดของเว็บไซต์ ซึ่งจะส่งผลให้ Search Engine เข้าใจว่าเว็บไซต์ของเราต้องการสื่ออะไร หรือเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร ยกตัวอย่างเช่น ผมทำเว็บขึ้นมาหนึ่งเว็บ ชื่อเว็บว่า ลูกหมา.com ซึ่งชื่อเว็บบอกอยู่แล้วว่าจะต้องทำเกี่ยวกับหมา หรือลูกหมา แต่ถ้าในเว็บไซต์ของผมดันไปพูดถึงแต่เรื่อง Google เรื่องการหาเงิน Amazon Adsense มันคงไม่ถูกต้องนัก ดังนั้นในเว็บไซต์ ลูกหมา.com นี้ควรมีคำว่าลูกหมาอยู่ในบทความต่างๆ พอสมควร แต่ว่าไอ้พอสมควรเนี่ยคือเท่าไรกันเล่า จริง ๆ การคิด Keyword Density นั้น เราสามารถพิจารณาได้ทั้งสองแบบเลยครับ คือ
1. Keyword Density ทั้งเว็บ
2. Keyword Density เฉพาะบทความ 1 บทความ หรือ Page หนึ่ง Page
สมการของ Keyword Density คือ (จำนวน Keyword ที่เราสนใจ / จำนวนคำทั้งหมด)x100
โดยเปอร์เซนต์ความหนาแน่นที่เหมาะสม เป็นดังนี้ครับ
1. เราสามารถใส่ Keyword ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะไม่ให้ Google แบน คือ ประมาณ 12 – 20 % (อันนี้หมายถึงเปอร์เซ็นต์ Keyword ทั้งหมดของทั้งเวบนะครับ) โดยคุณสามารถที่จะรู้ได้ว่า % Keyword ทั้งหมดของเวบคุณอยู่ที่เท่าไหร่ โดยลอง Search ใน GG ด้วยคำว่า Keyword Density Analyzer ดูนะครับ จะเวบไซต์มากมายที่สามารถคำนวณ % Keyword ของเวบไซต์ของคุณได้  (ใส่ URL ของเวบ)
2. ทีนี้พูดถึง % Keyword เฉพาะบทความ 1 บทความ หรือ Page หนึ่ง Page สามาถแบ่งได้เป็น 2 กรณีดังนี้
2.1 กรณีเนื้อหาในหน้า Page นั้น มีคำมากเกิน 600 คำขึ้นไป ควรมี Keyword Density ไม่เกิน 10%
2.2 กรณีเนื้อหาในหน้า Page นั้น มีคำน้อยกว่า 600 คำ ควรมี Keyword Density ไม่เกิน 20 %
สาเหตุที่ต้องมี 2 กรณี คือ ในเนื้อหาสั้นๆ นั้นจะทำให้มีตัวหารน้อย ตัวเลขของความหนาแน่นก็จะมีมากขึ้นไปด้วยนั่นเอง

เครดิต Seosamutprakarn2013, By: Seo Master

seo 10 จุดสุดยอดในการใช้ Keyword ในการทำ SEO 2013

Seo Master present to you:
การใช้ Keyword ในการทำ Search engine Optimization หลายคนที่เป็นมือใหม่ อาจจะไม่มั่นใจหรือใช้ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นแนวทางให้สำหรับ ผู้ที่ยังไม่มั่นใจหรือยังไม่รู้ว่าจะใช้ยังไง ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ อย่ามัวเสียเวลาครับเริ่มต้นกันเลยดีกว่า
1. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหน้าเพจ (Title) ให้เราใส่ Keyword ที่เราต้องการจะใส่โดยให้น้ำหนักจากการเรียงจาก ซ้ายไปขวา ตัวอย่างการใช้งาน [title] keyword หลัก, keyword รอง, keyword อื่นๆ [/title] เป็นต้น
2. ใช้ keyword ที่บริเวณ ชื่อหัวข้อของเนื้อหา (Heading Tag) โดยการใช้ h1,h2,h3 เป็นต้น ตัวอย่างการใช้งาน [h1] Keyword [/h1] หรือ [h2] Keyword [/h2] เป็นต้น
3. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ Keyword ไว้ในตำแหน่ง 20 คำแรกโดยประมาณ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงก็ได้ ตัวอย่างการใช้งาน [body][p] Keyword [/p][/body]
4. ใช้ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน (Standard Text Link) คือการเชื่อมโยงในลักษณะ การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย ตัวอย่างการใช้งาน [a href="http://www.yoursite.com"] Keyword [/a]
5. ใช้ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนสุดท้ายของหน้า (The Last Content) เพื่อเน้นย้ำ หรือใช้ในการสรุปเนื้อหา อาจจะใช้เป็นลักษณะตัวเอียงหรือหนาก็ได้ครับ ตัวอย่างการใช้งาน [p] Keyword [/p] [/body]
6. ใช้ keyword ที่บริเวณ เมนูเลื่อนลง (Drop Down Menu) Drop Down Menu นี้เป็นที่ซ่อน Keyword ที่ดีอีกที่ที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ ตัวอย่างการใช้งาน [form] [option] Keyword [/option] [/form]
7. ใช้ keyword ตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ (Folder Name, File Name) วิธีนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจพอสมควรครับ กับการทดลองใช้ในหลายๆเว็บที่ผมลอง หากต้องใช้ Keyword มากกว่า 1 พยางค์ ควรใช้เครื่องหมาย "-" เป็นตัวคั่นกลาง ตัวอย่างการใช้งาน /Keyword/Keword.html,Keyword.jpg หรือ Keyword1-Keyword2.html
8. ใช้ keyword ที่บริเวณ คำอธิบายรูปภาพ (Images Alt Tag) การ ใช้ Tag Alt เข้าช่วยนั้นเพราะว่า Serach Engine นั้นไม่รู้จักรูปภาพเราสามารถบอก Search Engine รู้ว่าภาพนั้นเป็นภาพของอะไรได้โดยใช้ Tag Alt นี้เข้าช่วย ตัวอย่างการใช้งาน [img src="images address" alt="Keyword"]
9. ใช้ keyword ที่บริเวณคำอธิบาย ลิงค์ (Text Link Title) การใช้ Text Link Title นั้นคล้ายการใช้ Tag Alt เพียงแต่ Tag นี้ใช้อธิบาย Link ตัวอย่างการใช้งาน [a href="http://www.yoursite.com" title="Keyword"]Keyword [/a]
10. ใช้ Keyword จด Domain name ด้วย Keyword (Domain Name Register) การใช้ Keyword หลักของเว็บในการจด Domain Name นั้นหากทำได้ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ

เครดิต ThaiSeo2013, By: Seo Master
Powered by Blogger.