Les nouveautés et Tutoriels de Votre Codeur | SEO | Création de site web | Création de logiciel

Seo Master present to you: Author Photo
By Satish Kambala, Staff Software Engineer

At Google we believe that speed matters and a faster web is better for everyone. That’s why we started the Make The Web Faster initiative. To improve the speed of a website, we need to measure how fast web pages load. The Site Speed report, which is now available by default to all users of Google Analytics, provides just that: it enables website owners to measure page load time for their web pages.

You can use the Site Speed report to correlate speed with other metrics in Google Analytics, such as page views and conversions. This enables website owners to identify and optimize those pages that drive these metrics. Page load times can be analyzed by browser type or user location to understand if specific optimizations are required. Recently, we enhanced the Site Speed report by adding a new section called Technical (see screenshot below) which displays network and server time components of page load time.


site speed report screen shot

You can learn more about the Site Speed report here. This report, along with powerful page speed analysis tools such as Page Speed Online, will help website owners delight their users by building fast and responsive websites.

Have ideas on how to make your website faster or ways to speed up the entire Web? Send us your thoughts.


Satish Kambala works at Google on stuff that helps in making the web faster. In his free time, apart from watching cricket and movies, Satish likes exploring places with his wife.

Posted by Scott Knaster, Editor
2013, By: Seo Master
Seo Master present to you:
กระบวนการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization นี้ มีผู้เข้าใจผิดอยู่มากมาย ถึงขั้นมองเห็นแบบตรงข้ามกับที่เหล่านักทำ SEO ทำกันเลยทีเดียว เราลองมาดูกันบ้างว่าความเข้าใจผิดต่อการทำ SEO ที่ผู้ที่ไม่รู้หรือแม้แต่ผู้ที่รู้ ก็ยังเข้าใจผิดอยู่ตลอด

1. ความเชื่อที่ผิดคือ SEO คือการทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แบคลิงค์ แม้ว่า แบคลิงค์จะมีคุณค่า แต่การทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แบคลิงค์ ไม่ว่าจะเป็นการสแปม หรือโพสในเว็บที่ไม่เกี่ยวข้อง สิ่งที่ทำให้วงการ SEO เป็นที่ติเตียนของนักท่องเว็บ หรือนักทำเว็บ ก็คือการสแปมไปทั่ว ยกตัวอย่างเช่นการโพสในเว็บบอร์ดในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง ปั๊มกระทู้ สแปมคอมเมนท์ หรือแม้กระทั่วเว็บ Social Network ก็ตกเป็นเป้าของนักสแปม จนกระทั่งมีคำกล่าวที่น่าตกใจจากนักทำเว็บโฮสติ้งว่า ‘SEO คือการสแปม’ ทั้งๆที่ที่จริงแล้ว แบคลิงค์ที่เราควรจะได้คือแบคลิงค์แบบธรรมชาติ ในเว็บที่เกี่ยวข้องต่างหาก นอกจากการสแปมแล้ว สิ่งที่เป็น Controversy หรือข้อโต้แย้งที่ใหญ่ที่สุดของกระบวนการการได้มาของลิงค์คือ การซื้อขายลิงค์ ทั้งทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งถ้ามองในแง่ความจริง การซื้อขายลิงค์ก็ถือเป็นกลไกธรรมชาติอย่างหนึ่ง ในระบบทุนนิยม แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่มากไปจนผิดธรรมชาติ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการบิดเบือนธรรมชาติของการค้นหาโดย Search Engine เช่นกัน อย่าลืมว่า Search Engine ถือว่าหน้าเว็บค้นหาของเขาคือหน้าบ้าน ถ้าหากมีการเบี่ยงเบนจากเว็บที่มีเงิน แต่ไม่มีคุณภาพ มาหน้าแรกมากๆ ย่อมส่งผลเสียต่อความนิยมของ Search Engine อย่างไม่ต้องสงสัย ดังที่ Matts Cutts วิศวกรของ Google เคยเปรยเอาไว้ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องควบคุมการซื้อขายลิงค์ และเปิดรับแจ้งเรื่องไปยัง Google อย่างเป็นระบบ

2. ความเชื่อที่ว่าเว็บที่ติดอันดับดี จาก SEO ย่อมจะดีมีคุณค่ากว่า อันนี้เห็นๆกันจากข้อแรกว่า เมื่อมีการปรับแต่งอย่างเต็มที่ เว็บที่ธรรมดา หรือคุณภาพด้อย ก็อาจเข้ามาอยู่ในหน้าแรกๆได้เช่นกัน ถ้ามีเงิน มีเครือข่าย อันนี้ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย Search Engine อยู่ตลอดมาว่าจะทำอย่างไรจึงจะกรองเอาเนื้อหาที่คนใช้ต้องการ อย่างแท้จริง มาอยู่หน้าแรก จะเห็นได้ว่าทรัพยากรจำนวนมากของ Search Engine มากองอยู่ที่การปรับเปลี่ยน Algorithm เพื่อกรองเอาเว็บคุณภาพด้อยเหล่านั้นออกไป

3. ความเชื่อที่ว่า SEO คือการสร้างเว็บ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดจะขาดไปเสียมิได้ จริงอยู่ที่ว่าปัจจุบันเว็บดีๆถึงดีมาก แต่ไร้ซึ่งการปรับแต่งแบบ SEO ก็เปรียบเสมือนเพชรที่อยู่ในทะเลลึกยากจะมีคนเข้าหา การทำเว็บแบบสมัยใหม่ อาศัยปากต่อปาก การจะเกิดมาในโลกออนไลน์ค่อนข้างยาก ยกเว้นว่าจับกลุ่มได้ถูกต้อง นักทำเว็บไซต์รุ่นใหม่จึงหันมาสร้างความโดดเด่นทางด้าน SEO การทำเว็บให้ดี สำคัญกว่าการปรับแต่ง SEO ซึ่งอาจใช้เงินจำนวนมาก อย่าละเลยพื้นฐานของเว็บไซต์ที่ดี นั่นคือ เนื้อหา หน้าตาของเว็บ ความถูกต้อง ระบบบนำทางที่ดี การดีไซน์ที่ดีหรือมีเอกลักษณ์ และเนื้อหาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่สำคัญคือการสร้าง SEO ไม่สามารถสร้าง Brand ได้ จะเห็นว่า Brand ดังๆ ไม่ได้เกิดมาจาก SEO หรือไม่ได้สนใจเรื่องของ SEO เลยด้วยซ้ำ แต่ผู้คนจะกล่าวถึงความประทับใจในจุดอื่นๆ และรายละเอียดอื่นๆ  ของเว็บไซต์

4. การปรับแต่ง SEO ต้องทำอยู่ตลอดเวลาห้ามหยุด อันนี้ก็เป็นความเข้าใจผิดเช่นกัน นักทำ SEO ที่ดีจะรู้จุดและเวลา จะต้องประมาณตน และคิดเสมอว่า การใส่ปุ๋ยที่มากไป ก็จะมีโทษได้เหมือนกัน การเพิ่มแบคลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำ Onpage อย่างขมักเขม้นทุกจุด การปรับแต่งทุกวันสำหรับ Keyword Density หรืออื่นๆ เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงถ้าไม่รู้จักการประมาณเวลา หรือ Timing ว่า Search Engine มี Time Cycle ในการ เข้าถึงเว็บเราถี่เพียงใด มีการปรับปรุงดาต้าเบสและผลการค้นหาถี่บ่อยแค่ไหน มันจะยิ่งยุ่งยากถ้าเราคำนวนถึงจุดที่ว่า Search Engine มาเก็บหน้าแบคลิงค์ที่มีเว็บเราด้วยในอัตราเท่าไร ดังนั้น การทำ SEO ที่ดี เหมือนการขับขี่รถที่ต้องมีการกดคนเร่ง ปล่อยคันเร่ง แตะเบรค ชลอ เพื่อดูว่า สิ่งที่เราปรับจูนนั้นๆ มันถึงจุดที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหรือยัง หรือว่าทำมากเกินไป

5. ปรับแต่งเต็มที่แล้วมักจะได้ผลเสมอ อันนี้เป็นสิ่งที่นักทำ SEO ทราบกันดีว่า การปรับแต่งแม้แต่เหมือนกัน 100% ก็ไม่เสมอไปที่จะทำให้อันดับใกล้เคียงกัน 100% อันนี้เป็นสิ่งที่เรียกกันเล่นๆว่า แล้วแต่คนกด หมายถึงว่า ในบางขณะ Search Engine ก็มีการเข้ามา Manipulate โดยคน (อันนี้อาจไม่ใช่จากคนกดปุ่ม แต่อาจหมายถึงปุ่มบุคมาร์คหรือปุ่มโหวตบนโปรแกรมฝังตัวที่ Google เก็บข้อมูลจาก Users ทุกคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์) สิ่งนี้สะท้อนกลับมาถึงข้อจำกัดหลายๆอย่าง อย่างแรกคือการทำ SEO บางทีไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว อย่างที่สองคือ สูตรที่มีผู้คิดนั้น เปลี่ยนไปมาตลอดเวลา

เครดิต seo.thaihealth2013, By: Seo Master
Seo Master present to you:
We Wish You A Merry Christmas!ThanksWe Wish You A Merry Christmas! Wish a Merry Christmas to your loved ones with this wonderful Blogger. Thank you for visiting my blog in the past.Maybe the community of bloggers and your family Merry Christmas happy. Warm love
and Happy new year 2013.






2013, By: Seo Master
Powered by Blogger.