Les nouveautés et Tutoriels de Votre Codeur | SEO | Création de site web | Création de logiciel

seo Google เริ่มปรับเปลี่ยนการค้นหารูปแบบใหม่!! 2013

Seo Master present to you:
หลายคนคิดว่า Google พยายามจะอ่านความคิดความต้องการของผู้ใช้ทั่วโลก โดยเฉพาะ "คำตอบ" ที่ว่าเรากำลังต้องการค้นหาอะไร? ล่าสุดทางบริษัทกำลังปรับใหญ่สำหรับกลไกการค้นหาที่ลึกซึ้งกว่าเดิม และให้ผลตอบที่โดนใจผู้บริโภคมากกว่าการให้ผลลัพธ์แค่ "Link"

Amit Singhal วิศวกรลูกหม้อของ Google กล่าวว่า ทางบริษัทต้องการให้ผู้ใช้ได้ผลลัพธ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้มากกว่านี้ โดยการใช้กลไกที่เรียกว่า Semantic Search ซึ่งมันจะพยายามจัดลำดับสิ่งที่มีความหมายกับผู้ใช้จริงๆ ทันทีที่คุณกำลังพิมพ์คีย์เวิร์ดเข้าไปในช่องค้น Singhal ยังบอกอีกด้วยว่า มันคือเสิร์ชต่อไปหลังจากที่เราใช้กลไกการค้นหาแบบเดิมๆ มาหลายปีแล้ว โดยประเด็นของเสิร์ชยุคใหม่ที่วิศวกรของ Google พูดถึง และน่าสนใจมากๆ ก็คือ การทำให้ Google สามารถให้คำตอบกับผู้ใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องออกไปจากหน้าผลลัพธ์การค้น เหตุผลนอกจากความต้องการให้บริการเสิร์ชที่เยี่ยมยอดกับผู้ใช้ทั่วโลกแล้ว ไอเดียเบื้องหลังนี้ก็คือ ยิ่งผู้ใช้ Google ใช้เวลากับบริการเสิร์ชนานเท่าไร โอกาสทำรายได้จากโฆษณาของบริษัทก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น


ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ การค้นหาว่า นักร้อง หรือวงดนตรีใดที่กำลังจะมีคอนเสิร์ทวันไหน แทนที่ Google จะให้ลิงค์ของคำตอบกับผู้ค้น Google จะแสดงออปชัน "personal results" (ผลลลัพธ์การค้นเฉพาะบุคคล) จากเพื่อนๆ ที่อยู่ในบริการ circles บน Google+ ด้วย เช่นเดียวกับผลลัพธ์การค้นปกติ ซึ่งที่ส่วนท้ายของหน้าค้นหา ผู้ใช้ยังสามารถเห็นรายการสำหรับการค้นหาที่เฉพาะเจาะจงลงไป ซึ่งอาจจะตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้กำลังค้นหาอยู่ก็ได้ "ทุกวันนี้ เรา (Google) กำลังปรับปรุงความสามารถตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่ดีที่สุด และเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ สำหรับทุกคำถามที่ป้อนเข้าไปในช่องค้น ในการทำสิ่งนี้ เราได้แปลงข้อมูลดิบเข้าไปเป็นฐานความรู้สำหรับผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก แต่ความสามารถของเราในการที่จะส่งมอบประสบการณ์นี้ได้คือ ฟังก์ชันการทำงานของ Google จะต้องเข้าใจคำถามของคุณ และเข้าใจข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งตอนนี้ ความเข้าใจของเราสำหรับการหาคำตอบในเรื่องดังกล่าวเริ่มปะติดปะต่อเป็นรูปร่างที่ชัดเจนขึ้นแล้ว แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง"


วิศวกรของ Google ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Google ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ (entities) ที่เกี่ยวของกับคน สถานที่ และสิ่งของ หลายร้อยล้านรายกร เข้าไปในซีแมนทิคเสิร์ช ซึ่งมันสามารถดึงข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหาร สถานที่ และผลิตภัณฑ์ให้แสดงขึ้นมา เมื่อคุณค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ โดย Singhal ได้พูดถึง Freebase ฐานข้อมูลที่ Google ซื้อมาเมื่อปี 2010 ที่ในขณะนั้น Freebase ได้รวบรวมเอ็นทิตี และคุณสมบัติที่เชื่อมโยงกันไว้มากกว่า 12 ล้านรายการ จนล่าสุดตอนนี้ Freebase มีฐานข้อมูลของสิ่งต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันมากกว่า 200 ล้านรายการแล้ว

การใช้ "คีย์เวิร์ด" ในการค้นหาเพียงอย่างเดียวได้หมดยุคไปแล้ว Singhal ระบุในข้อความที่โพสต์ว่า ขณะนี้การเสิร์ชด้วยกลไกของ Semantic ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และยังต้องดำเนินต่อไป โดยขอให้ผู้ใช้ใจเย็นๆ ซึ่งเขาจะเปิดเผยเรื่องนี้อีกครั้ง (แน่นอนว่า หากมีการอัพเดทในเรื่องนี้อย่างไรจะรีบหยิบมานำเสนอให้ทุกท่านได้ทราบทันที) เมื่อเห็นภาพการทำงานที่ชัดกว่านี้ ปัจจุบัน Google มีส่วนแบ่งตลาดเสิร์ชอยู่ที่ 75% และทำรายได้ให้บริษัทสูงถึงสามหมื่นเจ็ดพันล้านเหรียญฯ

เครดิต : Arip2013, By: Seo Master

seo robot.txt คือ ? 2013

Seo Master present to you:

robot.txt คือ คือไฟล์ที่เอาไว้กำหนดทิศทางการทำงานของ Bot ในการ Index ข้อมูลของเว็บไซต์ของเรา กล่าวคือหลังจากที่เราได้ทำโครงสร้างของเว็บไซต์ของเราเสร็จแล้ว แต่มีข้อมูลบางส่วนที่ไม่ต้องการจะเผยแพร่ ไม่ต้องการที่จะให้ Bot เข้ามาทำการเก็บข้อมูล เราจะสร้างไฟล์ robot.txt ขึ้นมาเพื่อกำหนดการทำงานให้ Bot ที่จะมาเก็บข้อมูลใน Web Site ของเรา ว่าสามารถที่จะเข้าไปเก็บข้อมูลในส่วนไหนได้บ้าง และเป็น Bot ของ Search Engine ไหนที่จะเข้าไปได้ ในส่วนของไฟล์ robot.txt นั้นจะถูกเก็บไว้ที่ส่วนนอกสุดของ Root Directory เช่น http://www.yourdomain.com/robot.txt2013, By: Seo Master

seo จะหลุดจาก Google Sandbox อย่างไร ? 2013

Seo Master present to you:
ก็อยากที่ทราบดีกันว่า Google ทำระบบนี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะป้องกัน และกำจัดเว็บที่เข้าข่าย Spam เว็บเหล่านี้ทำอันดับสูงอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยหลักการของ Black Hat SEO โดยใช้วิธีการซื้อ Link จากเว็บที่มี PR สูงจำนวนมาก และโดยจากการปั่น Link ที่มาจากการ Spam ตามเว็บไซต์ต่างๆ ในการดันอันดับให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นหากต้องการที่จะทำให้เว็บหลุดออกจาก Google Sandbox ให้ได้เร็วที่สุดก็คือทำเว็บให้ดีที่สุด มีคุณภาพที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการ Update เว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง โดยเขียนบทความ หรือเนื้อหาที่มีคุณภาพขึ้นเอง (Unique Content) โดยไม่ซ้ำกัน (Duplicate Content) สร้าง Link Popularity ที่มีคุณภาพจาก Web Site ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน และมี PR สูง โดยทำให้เป็นธรรมชาติมากที่่สุด เพราะการทำ SEO จำเป็นต้องใช้เวลา เพียงเท่านี้ก็จะหลุดจาก Google Sandbox ภายในระยะเวลาไม่นานครับ2013, By: Seo Master

seo วิธีหลีกเลี่ยงเว็บไซต์จาก Google Sandbox 2013

Seo Master present to you:
1.ถ้าคุณคิดจะทำการจดทะเบียนโดเมนเนม และทำ Website ก็ควรจะรีบจดทะเบียนทิ้งเอาไว้ และก่อนที่จะทำเว็บไซต์เสร็จสมบูรณ์ อาจจะทำไว้ไม่กี่หน้า ถึงแม้ยังไม่มีเนื้อหามากก็ไม่เป็นไรถ้า Google ทำการ Index เว็บไซต์แล้วค่อย เพิ่มเนื้อหาของเว็บไซต์ ลงไปทีหลังก็ได้
2.หลังจาก Index แล้วก็รอให้ผ่านช่วง Sandbox Effect ซึ่งอาจใช้เวลา 4 - 6 เดือน
3.สร้างลิ้งเว็บไซต์ ให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ โดยไม่โตเร็วเกินไปจนผิดสังเกต ค่อยเป็นค่อยไป
4.Promote โดยให้อ้าง Link จาก เว็บที่ (PR) Pagerank สูง และมีเนื้อหาใกล้เคียงกัน2013, By: Seo Master

seo Sandbox Effect คือ ? 2013

Seo Master present to you:
Sandbox Effect คือ ตัวกรองเว็บไซต์ หรือ ระบบการกรองข้อมูลเว็บไซต์ต่าง ๆ คล้าย ๆ กับ Web Filter ที่ใช้กรองเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มุ่งหวังในการทำให้ติดอันดับใน Search Engine อย่าง Google
กระบวนการต่าง ๆ ของการกรองข้อมูลเหล่านี้ทำให้เกิดการพัฒนาเว็บไซต์ต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เพราะว่าเว็บใหม่ต่าง ๆ หรือ เว็บที่เกิดใหม่ต่าง ๆ ต้องค่อยเป็นค่อยไป โดยหลักการของ Sandbox Effect คือ จะทำการกักเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เกิดใหม่จนกว่าจะมั่นใจว่ามีความน่าเชื่อถือแล้ว ตามกฏเกณฑ์ก็คือย่างน้อย 4 - 6 เดือน เว้นแต่เว็บไซต์หรือ Blog นั้น ๆ ได้รับความน่าเชื่อถือมาก ๆ และ มีเว็บที่มีความน่าเชื่อถือลิงค์มาหาเป็นจำนวนมากพอสมควร2013, By: Seo Master

seo Google Sandbox คือ ? 2013

Seo Master present to you:
Google Sandbox เป็นฟิลเตอร์ชนิดหนึ่ง ที่ทาง Google พัฒนาขึ้นมาเพื่อวัดถึงระดับ ของความยากง่าย ในการติดอันดับดีๆ ในเสิร์ชเอนจิ้น ของเว็บไซต์ใหม่ๆ เมื่อใช้คีย์เวิร์ดที่มี อัตราการแข่งขันสูง ซึ่ง Sandbox จะช่วยให้ Google ป้องกันการ Optimization เว็บไซต์ที่เพิ่ง จดทะเบียนโดเมนเนม ใหม่ๆ ไม่ให้ติดอันดับดี เร็วเกินไป จัดทำขึ้นเพื่อทำการคัดกรองเว็บไซต์ด้อยคุณภาพที่เกิดขึ้นจำนวนมากในเวลา อันสั้น ซึ่งปัญหาหลักที่เขาได้ตระหนักถึงคือ มีเว็บจำนวนหนึ่งเป็นเว็บด้อยคุณภาพ หรืออาจจะไร้คุณภาพเลย เว็บจำพวกนี้จัดอยู่ในกลุ่ม Spam หากทาง Google ปล่อยให้เว็บเหล่านี้อยู่ในฐานข้อมูลของเขา ก็เหมือนกับเก็บขยะเอาไว้ในบ้าน
Google Sandbox คือช่วงเวลาทดลองว่าเว็บไซต์ มีความน่าเชื่อถือได้หรือไม่ เนื่องจาก Google ต้องการไม่ให้คนที่เพิ่งจะทำ SEO มีความใจร้อนมากเกินไป เพราะหลายคน ต้องการ เห็นเว็บไซต์ของตัวเองติดอันดับเร็วๆ เลยทำการซื้อลิ้งค์ จากเว็บไซต์ที่มี PageRank สูงๆ เยอะๆ แต่เมื่อเว็บไม่ติดอันดับ ก็ล้มเลิกความตั้งใจไป ด้วยเหตุนี้ Google จึงหาวิธีโดยการให้เว็บใหม่ๆ ติดอันดับได้ยาก อาจจะใช้เวลาประมาณ 4 - 6 เดือน กว่าที่ Google จะปล่อยให้หลุดจาก Sandbox ไปได้

เครดิต template-stores.com2013, By: Seo Master

seo ประเภทของ Link Popularity 2013

Seo Master present to you:
กฏของ SEO ได้จำแนกรูปแบบของ Link Popularity เป็นหลากหลายประเภท แต่ที่มีประโยชน์ที่สุดจะเพียง 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

One-Way Link
1-Way Link เป็นการแจก Links ไปทางเดียวโดยไม่ต้องการ Links กลับมาหาเรา เช่น เว็บไซต์ ความรู้ SEO ทำ Links ไปที่เว็บไซต์ เช่าทรัส แต่ว่าเว็บไซต์ เช่าทรัส ไม่ได้ทำ Links ให้กับมาที่เว็บ ความรู้ SEO

Two-Way Links
2-Way Links การพ่วง Links แบบสองทาง เช่น เว็บไซต์ ความรู้ SEO ทำ Links ไปที่เว็บไซต์ เช่าทรัส และ เว็บไซต์ เช่าทรัส ได้ Links กลับไปหาเว็บไซต์ ความรู้ SEO คืน

Three-Way Links
3-Way Links แน่นอน Links สามเศร้า เช่น เว็บไซต์ ความรู้ SEO ทำ Links ไปที่เว็บไซต์ เช่าทรัส แล้วเว็บไซต์ เช่าทรัส ก็ส่งให้เว็บไซต์ ทาสีคอนโด ก็ได้ Link กลับไปหาเว็บไซต์ ความรู้ SEO

ซึ่งการทำ One-Way Link และ Three-Way Links ตามตัวอย่างข้างต้น จะส่งผลดีให้กับเว็บไซต์ เช่าทรัส ในฐานะเว็บคนกลาง มากกว่าการทำ Two-Way Links ในมุมมองของ SEO ซึ่งตรงๆเลยว่า เราควรเป็นคนกลางที่จะมีคน Links เข้ามาและก็จ่ายให้ Link ออกไปอ้อมๆกลับคืน

ประโยชน์ของ Link Popularity ก็ มีอยู่ไม่มากครับ การที่มี Links เข้าหาเว็บไซต์มากๆ เป็นหลายๆ Links ทำให้โอกาสที่ Robot ของ Search Engine ต่างๆ เข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ เรามากขึ้นมีมาก และนอกจากนี้ก็ยัง เพิ่มโอกาส ของผู้ที่สนใจผ่าน Links เข้ามาหาดูข้อมูลทำให้เกิดจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น อีกทั้งจำนวน Links ที่เชิญคนเข้ามาชมเว็บไซต์เราเยอะๆนั้น ก็ทำให้ความน่าเชื่อถือเว็บไซต์ เราดีขึ้นอีกต่างหาก

เครดิต daydev2013, By: Seo Master

seo Pligg คืออะไร ? ตอนที่ 2 2013

Seo Master present to you:
Pligg เดิมชื่อ menéame ในภาษาสเปน เป็นเว็บแอปพลิเคชันที่ช่วยให้คุณสามารถ ส่งบทความที่ถูกแนะนำจากทุกคน และเป็นการโฆษณาไปในตัว, โดยอาศัยตามความนิยมเพื่อไปแสดงที่หน้าหลัก เมื่อสมาชิกทำการส่งข่าว บทความจะถูกกำหนดให้อยู่ในสถานะ “ไม่เผยแพร่” จนกว่าจะได้รับคะแนนเสียงเพียงพอที่จะทำให้ไปแสดงที่หน้าหลัก ต้นฉบับแหล่ง Pligg ถูกเขียนโดย Ricardo Galli ซึ่งเขาได้รับอิทธิพลสุดขีดจากเทคโนโลยี เป็นที่เป็นที่นิยมคือเว็บไซต์ digg.com จากอังกฤษ
Pligg หนึ่งในการทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งเป็นกรรมวิธีที่จะทำช่วยให้เว็บไซต์สามารถขึ้นอันดับบน Search Engine ได้ดีขึ้น หรือหากต้องการให้มีคนเข้าชมเว็บเพิ่มขึ้น ให้ลองใช้งานเว็บไซต์ประเภท Social Bookmark แล้วทำไมทำให้อันดับเว็บบน Search Engine ดีขึ้น? เพราะเป็นการเพิ่ม Backlink ให้แก่เว็บที่ถูก Post ลงไปบนเว็บ Social Bookmark นั้นเอง ยิ่งถ้าเป็นเว็บที่มี PR สูงแล้วยิ่งทำให้เราได้ Link ที่มีคุณภาพอีกด้วย

เครดิต blog.fukduk.tv2013, By: Seo Master

seo Pligg คืออะไร ? ตอนที่ 1 2013

Seo Master present to you:
Pligg อ่านว่า พลิกก์ คือ โอเพนซอร์ส คอนเทน แมเนจเม้นท์ ซิสเท็ม หรือเรียกสั้นๆ ว่า CMS ภาษาไทยเรียกว่า ระบบจัดการเนื้อหา โดยคุณสามารถดาวน์โหลด และใช้งานได้ฟรี พลิกก์ CMS เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับงานด้าน เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Networking) เพื่อให้คนที่มาลงทะเบียนเป็นสมาชิกเว็บไซต์ สามารถส่งเนื้อหาเข้ามายังเว็บ และติดต่อกับเพื่อนคนอื่นๆ ได้ ซึ่งซอฟต์แวร์นี้ สามารถนำไปสร้างเป็นเว็บไซต์ที่เอาไว้เก็บเรื่องราวบนเว็บ อื่นๆ ที่น่าสนใจ และให้เพื่อนสมาชิกโหวตให้คะแนนกันได้ แต่ไม่ใช่เว็บที่เอาไว้เขียนเรื่องราวต่างๆ ใช้ พลิกก์ (Pligg) คอนเทน แมเนจเม้นท์ ซิสเท็ม เพื่อเริ่มทำ กลุ่มเครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้ในไม่กี่นาที Pligg เป็น Web Submit Social Bookmark อย่างหนึ่ง ใช้ Submit เว็บ ทำให้ได้ BackLink, PageRank,ฺ Bot และก็ Traffic ครับ ซึ่งมีผลทาง SEO ด้วย

เครดิต pligg.in.th2013, By: Seo Master
Powered by Blogger.