Les nouveautés et Tutoriels de Votre Codeur | SEO | Création de site web | Création de logiciel

seo SEO คืออะไร ? 2013

Seo Master present to you: เอสอีโอ (SEO : Search Engine Optimization) หรือ การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา เป็นการจัดทำ ปรับปรุง หรือปรับแต่งหน้าเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับต้น ๆ ในหน้าผลการค้นหาของ เสิร์ชเอนจิน ในลักษณะธรรมชาติ (เรียกศัพท์เฉพาะว่า "ออร์แกนิก") ซึ่งผ่านทางเป้าหมายของคำค้นหาที่ต้องการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ การทำการตลาดผ่านระบบค้นหา หรือ Search Engine Marketing (SEM)

เอสอีโอ เป็นการเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดใน เสิร์จเอนจิน คือ การปรับปรุงเว็บไซต์ด้วย เทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ติดอันดับต้น ๆ ของเว็บ เสิร์ชเอนจิน ด้วยคำสำคัญหรือคีย์เวิร์ด โดยเน้นให้ผลของคำค้นปรากฏอยู่ในส่วนของ Natural Search Result (Organic Search Result) หรือในส่วนของผลลัพธ์ทางด้านซ้ายมือของเว็บ เสิร์ชเอนจิน เวลาที่คนเข้ามาค้นหาในเว็บ เสิร์ชเอนจิน เช่นที่ กูเกิล ยาฮู หรือ บิง ด้วยคำสำคัญที่ต้องการค้นหาแล้ว จะปรากฏลิงก์ของเว็บไซต์ของ เราเพื่อทำให้ติดอันดับต้น ๆ ในหน้าผลการค้นหา ซึ่งการทำ เอสอีโอ นั้นจะประกอบไปด้วย การปรับปรุง-เพิ่มคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด) ในหน้าเว็บไซต์ การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้มีขนาดเล็ก การใช้ Meta Tag การหาเว็บไซต์ที่สามารถเชื่อมโยงหรือลิงก์เข้ามาสู่เว็บไซต์ที่ต้องการจัดทำ เอสอีโอ และวิธีอื่น ๆ ควบคู่กันไป เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจเกี่ยวกับ เอสอีโอ นั้นก็เหมือนช่องทางหนึ่งในการทำการตลาด โดยการทำความเข้าใจว่าอัลกอริทึมของ เสิร์ชเอนจิน นั้นทำงานอย่างไร และ คำ ๆ ไหนที่ผู้เยี่ยมชมมีความต้องการที่จะค้นหา เพื่อช่วยเลือกเว็บเพจที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจของผู้ทำการค้นหา

การสร้างเว็บเพจโดยการใช้เทคนิค เอสอีโอ นั้น ก็ไม่ได้หมายถึงการสร้างเนื้อหาที่เป็นที่ชื่นชอบต่อ เสิร์ชเอนจิน เพียงอย่าง เดียวโดยที่ไม่คำนึงถึงผู้เยี่ยมชม ซึ่งวิธีการทำ เอสอีโอ นั้น อาจจะมีการเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโค๊ดของเว็บไซต์, การนำเสนอ, โครงสร้างของเว็บไซต์ และสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งของการทำ เอสอีโอ ก็คือเนื้อหาที่มีประโยชน์ และจะต้องเป็นเนื้อหาต้นฉบับที่ไม่ได้ทำการคัดลอกหรือลอกเลียนมาจากเว็บไซต์ อื่นใด

เครดิต วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 2013, By: Seo Master

seo ค่าเฉลี่ยอัตราการคลิกของ Google Search 2013

Seo Master present to you:
วันนี้ช่วงเช้าก่อนทำงานขณะนั่ง Research ข้อมูลเกี่ยวกับ Social Media ไปเจอรูปนี้เข้าเลยเก็บมาฝากครับ รูปนี้จริงๆเป็นของเว็บไซต์เจ้านึงที่บริการ Heatmaps หรืออะไรก็แล้วแต่มันเรียกได้หลายชื่อแล้วแต่จะตั้ง (ของ Truehits ก็มีใครใช้ Stat อยู่ก็เอา Clickmap มาติดได้เลยฟรี) แต่การทำงานคือระบบจะจับการคลิกของหน้าเว็บไซต์เราว่า User ที่เข้ามานั้นคลิกตรงส่วนไหนมากที่สุด เพื่อเจ้าของเว็บจะได้รู้ว่าคนที่เข้าเว็บมานั้นคลิกตรงไหนเป็นส่วนมากของ เว็บ ซึ่งจะสามารถปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขเว็บเราให้รองรับการใช้งานมากขึ้น นี่คือข้อดีของ Heatmaps ครับ แต่วันนี้ไม่ได้มาพูดถึงเรื่อง Heatmaps แต่เอาการคลิกมาโชว์ให้ดูครับว่าหากคุณทำ Keyword ด้วยการทำ SEO หรือ PPC ต่างๆนั้นอัตราการคลิกจะเป็นดังรูปที่นำมาแสดง ทำไมหลายๆคนถึงอยากให้เว็บตัวเองขึ้นหน้าแรก อยากติด Top 5 ก็เพราะคนคลิกเยอะ เทียบอัตราการคลิกคร่าวๆให้ดูดังนี้ครับ

Organic Ranking Visibility

Rank 1 – 100%
Rank 2 – 100%
Rank 3 – 100%
Rank 4 – 85%
Rank 5 – 60%
Rank 6 – 50%
Rank 7 – 50%
Rank 8 – 30%
Rank 9 – 30%
Rank 10 – 20%

จะสังเกตุเห็นได้ว่ายิ่ง Rank สูงยิ่งดีอัตราการคลิก ค่าเฉลี่ยอัตราการคลิกของ Google Search ก็จะดีตามมา ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยว่าทำไมเจ้าของเว็บส่วนใหญ่จึงอยากให้เว็บตัวเองติด Keyword อันดับต้นๆ (แต่ไม่จำเป็นต้องติดหน้าแรกนะครับ ติดหลายๆคำและติดหลายๆหน้าก็มีค่าไม่ต่างจากติดหน้าแรกแล้วติดคำเดียวครับ)

Side sponsored ads visibility

1 – 50%
2 – 40%
3 – 30%
4 – 20%
5 – 10%
6 – 10%
7 – 10%
8 – 10%

ในส่วนนี้จะเป็น PPC ด้านขวามือก็คือ ADS ที่เราต้องจ่ายเงินนั่นเอง โดยปกติแล้วพฤติกรรมผู้ใช้การค้นหาส่วนใหญ่นั้นจะมองจากตรงกลางเลื่อนลงมาล่างสุดแล้วค่อยไปขวาบนลงล่างสุดครับ อัตราการคลิกนั้นจะน้อยกว่า SEO ครึ่งต่อครึ่งเลยครับ ดังนั้นในการทำเว็บหรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องคำนึงถึง SEO ด้วยว่าเว็บเราควรจะทำให้ติด Keyword คำไหน อะไร ยังไง เป็นต้นครับ

สรุปที่เขียนมาทั้งหมดเพราะรูปที่นำมาแสดงนั่นเอง เอามาให้ดูอัตราการคลิกว่าถ้าทำติด SEO จาก Top 1 - 10 แล้ว % การคลิกคนคลิกเท่าไหร่คลิกอะไรมากสุดดูจากรูปคือคำตอบ ขอให้โชคดีในการทำ SEO ครับ

Source : Blog.gootum.com2013, By: Seo Master

seo Sandbox Effect คือ ? 2013

Seo Master present to you:
Sandbox Effect คือ ตัวกรองเว็บไซต์ หรือ ระบบการกรองข้อมูลเว็บไซต์ต่าง ๆ คล้าย ๆ กับ Web Filter ที่ใช้กรองเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มุ่งหวังในการทำให้ติดอันดับใน Search Engine อย่าง Google
กระบวนการต่าง ๆ ของการกรองข้อมูลเหล่านี้ทำให้เกิดการพัฒนาเว็บไซต์ต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เพราะว่าเว็บใหม่ต่าง ๆ หรือ เว็บที่เกิดใหม่ต่าง ๆ ต้องค่อยเป็นค่อยไป โดยหลักการของ Sandbox Effect คือ จะทำการกักเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เกิดใหม่จนกว่าจะมั่นใจว่ามีความน่าเชื่อถือแล้ว ตามกฏเกณฑ์ก็คือย่างน้อย 4 - 6 เดือน เว้นแต่เว็บไซต์หรือ Blog นั้น ๆ ได้รับความน่าเชื่อถือมาก ๆ และ มีเว็บที่มีความน่าเชื่อถือลิงค์มาหาเป็นจำนวนมากพอสมควร2013, By: Seo Master
Powered by Blogger.