Les nouveautés et Tutoriels de Votre Codeur | SEO | Création de site web | Création de logiciel

seo ทำอย่างไรถึงจะได้ค่า PR เพิ่มขึ้น ? 2013

Seo Master present to you:
 ค่า PR นั้นจะเพิ่มขึ้นได้ในแต่ละขั้นจาก 1 ไป 2 , จาก 2 ไป 3,... , จาก 9 ไป 10 นั้น มีกฏเกณฑ์ที่ค่อนข้างสลับซับซ้อน แต่ไม่ได้เป็นลักษณะเช่น คุณมีเว็บที่เชื่อมโยงลิงก์มาหาเว็บไซต์ คุณจาก 50 Inbound Link เป็น 100 Inbound Link (เพิ่มขึ้น 50 หน่วย) เว็บเพจนั้นๆอาจมีค่า PR เพิ่มขึ้นจาก 2 เป็น PR 3 แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ค่า PR 3 จะปรับเพิ่มขึ้นเป็น PR 4 โดย ที่คุณมี Inbound Link เพิ่มจาก 100 เป็น 150 (เพิ่มขึ้น 50 หน่วย) เสมอไป อาจต้องมี Inbound Link เพิ่มขึ้นถึง 200 หน่วย ค่า PR ถึงจะเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นในค่า PR ในแต่ละขั้นนั้น เป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความรู้ ความพยายามเป็นอย่างมาก

เครดิต truehits 2013, By: Seo Master

seo ตรวจสอบและ เช็ค PR ด้วย PaRaMeter 2013

Seo Master present to you:
สวัสดีครับ ช่วงเมื่อไม่นานที่ผ่านมาทาง Google ได้มีการปรับ PR ให้กับเว็บไซต์ต่างๆครั้งใหญ่ ตัวผมก็เลยมองหา SEO Tool ดีๆซักตัวที่มีความสามารถ ตรวจสอบ และ เช็ค PR เว็บไซต์ครั้งละมากๆได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ และเน้นที่ตัวโปรแกรมให้มีขนาดไฟล์ไม่ใหญ่มาก แล้วก็ทำงานได้สะดวกดี และที่สำคัญใช้งานได้ง่ายๆและฟรีครับ ผมขอแนะนำ PaRaMeter จากค่าย CleverStat เครื่องมือ เช็ค PR เว็บ ที่มีความสามารถตรวจสอบ PR ได้อย่างรวดเร็ว วิธีใช้งานก็ค่อนข้างง่ายๆมากๆครับ เพียงกรอก URL ของเว็บไซต์ที่เราต้องการในช่อง URL แล้วคลิ๊กที่ปุ่มเครื่องหมายบวก หรือ Add Button นั้นเอง ถ้าต้องการเช็ค PR เว็บหลายๆเว็บไซต์ หรือ Page ต่างๆ ก็เพียงกรอก URL ของเว็บไซต์ หรือ Page ที่เราต้องการตรวจ สอบ และคลิ๊กปุ่ม Add เพิ่มลงไปใน List ให้ครบตามความต้องการของเรา หลังจากนั้นก็คลิ๊กที่ปุ่มเครื่องหมายสามเหลี่ยม หรือ Update PR Button เพียงแค่นี้ตัวโปรแกรมก็จะประมวลผลและแสดง PR ให้เราได้ทราบกัน โดยจะแสดงแบ่งออกเป็น Column ที่สำคัญๆคือ State จะแสดงเป็น Emotion น่ารักๆแสดงสถานะของ PR ของเราที่ได้รับ ช่อง PR คือ PR ของเว็บไซต์ที่เราทำการเช็ค PR คะแนนสูงสุดคือ 10 ช่อง Trend จะแสดงและอ้างอิงเปรียบเทียบ ผลการตรวจสอบครั้งก่อนและครั้งล่าสุด Column Date แสดงวันที่ทำการตรวจสอบ PR รวมทั้งยังมีความสามารถเล็กๆ ให้เราได้ใช้งานคือสามารถ Export เป็นไฟล์ CSV ได้ โดยคำสั่งจะอยู่ที่ Menu Bar Project และสามารถ Note รายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมได้โดยคำสั่งจะอยู่ที่ Menu Bar Options View - Full รวมทั้งสามารถตรวจสอบ PR ในหน้าต่างๆภายในเว็บไซต์ของเราโดยเลือก Tool และ Extract Urls กำหนดค่า Depth กรอก URL เว็บไซต์ที่ต้องการเช็ค PR ภายในเว็บคลิ๊กปุ่มสามเหลี่ยม หรือ Start Button คลิ๊กปุ่มเครื่องหมาย Diskette หรือ Save Found URLs and Close ครับ ลอง Download PaRaMeter ไปทดสอบกันดูนะครับ หวังว่าค่อยช่วยเบาแรงเพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อยครับ สำหรับเครื่องมือ เช็ค PR ตัวนี้

2013, By: Seo Master

seo แนะนำวิธีค้นหาและสร้าง Backlink ง่ายๆ 2013

Seo Master present to you:
วันนี้เราจะมาแนะนำเครื่องมือและวิธีการค้นหาและสร้าง Backlink ง่ายๆนะครับ เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับ Backlink ที่เชื่อมโยงมาจากเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ เกี่ยวข้องกัน หรือสอดคล้อง ดังนั้นเราควรไปฝาก Link ไว้กับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงกับเว็บไซต์ของเราเพราะเราจะได้ SEO Score จากตรงนี้ส่งผลให้ อันดับผลการค้นหาของเราดีขึ้น เราไปดูเครื่องมือตัวนี้กันเลยกับเว็บไซต์ Dropmylink คลิ๊กเลย ขั้นตอนก็ง่ายๆและฟรีอีกเช่นเคย ในการค้นหาก็เพียงแค่ใส่ Keyword ที่เราต้อง การจะค้นหาลงในช่อง Keyword ในส่วนของช่อง Find ก็คือวิธีการค้นหา Backlink จากที่ไหนจะมี Drop Down Menu ให้เลือก โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. .edu Blogs ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากการ Comment Blog ที่มี สกุล .edu ย่อมาจาก Education ซึ่งเป็นเว็บไซต์ หรือ Blog ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่ง Google ให้คะแนนความเชื่อถือจากตรงนี้มาก
2. .gov Blogs ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากการ Comment Blog ที่มี สกุล .gov ย่อมาจาก government ซึ่งเป็นเว็บไซต์ หรือ Blog ที่เกี่ยข้องกับหน่วยงานของรัฐบาล เช่นเดียวกัน Google ให้คะแนนความน่าเชื่อถือและความสำคัญจาก Backlink ที่มาจาก .gov สูง
3. KeywordLuv Blogs ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากการ Comment Blog ที่มีการใช้ Plug-in KeywordLuv ซึ่งจะได้ Backlink แบบ Dofollow
4. Directories Add Site, Add URL, Add Website ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากเว็บจำพวก Directories หรือสารบัญเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งเว็บประเภทนี้จะเก็บรวบรวมเว็บไซต์ต่างๆ แยกออกเป็นกลุ่ม และหมวดหมู่ย่อย
5. Squidoo Lenses ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากเว็บไซต์ Squidoo Lenses
6. Hubpages ค้นหาและหาวิธีสร้าง BL จากการ Comment เว็บไซต์ hubpages.com
7.Angela's Backlinks ค้นหาและสะกดรอยตามเพื่อสร้าง BL PR สูงหรือลิงค์คุณภาพ ตาม Angela's Backlinks
ก็เลือกการค้นหาในช่อง Find ตามความต้องการของเราเลยครับ แล้วก็หาวิธีสร้าง BL ไม่ยากใช่ไหมครับกับเครื่องมือค้นหา BL ตัวนี้ เบาแรงไปได้เยอะเลย ลองทดสอบและเล่นกันดูครับเผื่อจะต่อยอดอะไรได้อีกจากตรงนี้ครับ2013, By: Seo Master

seo Backlink Checker 2013

Seo Master present to you:
ก็จะมาแนะนำเว็บไซต์อีกเว็บไซต์นึงที่เอาไว้ตรวจสอบ Backlink ที่เราได้ไปฝากไว้ตามเว็บไซต์ต่างๆ คล้ายๆกับเว็บไซต์ที่ได้แนะนำไปใน บทความ SEO ตอนที่แล้วนะครับ เว็บไซต์ที่เอาไว้ตรวจสอบที่นำมาแนะนำคือ Check Backlink ขั้นตอนการตรวจสอบก็ไม่มีอะไรยุ่งยากครับ ก็สามารถตรวจสอบได้เลยโดยไม่ต้องสมัครสมาชิก เพียงแค่กรอก Domain Name เว็บของเราลงไปในช่อง Your Domain แล้วคลิ๊กที่ปุ่ม Check! รอซักครู่ระบบก็จะทำการประมวลผล วิธีการดูก็ไม่ยากครับ จะมีรายละเอียดให้เราได้ตรวจสอบกันอยู่ 3 ส่วน ส่วนแรกก็คือ Total Backlinks หรือจำนวนผลรวมของ Backlink ของเราทั้งหมดที่ระบบได้ทำการตรวจสอบพบ ส่วนที่สอง Website Address หรือชื่อเว็บไซต์ที่อ้างอิง Backlink ของเรา สามารถคลิ๊กเข้าไปดูได้ครับ ส่วนที่สาม PageRank หรือ ค่าคะแนน PR ของหน้านั้นๆที่เราได้ Backlink ครับ ลองเข้าไปทดสอบกันดูครับกับ SEO Tool ตัวนี้ ^^2013, By: Seo Master

seo กฎ 20 ข้อในการพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็นเลิศและประสบความสำเร็จ 2013

Seo Master present to you:
  1. ให้ความนับถือผู้ชมเว็บของคุณ อย่าพยายามบังคับให้พวกเขาอ่านเนื้อหาในเว็บของคุณทั้งหมด ปล่อยให้พวกเขาเลือกและตัดสินใจเองว่าจะอ่านอะไร ให้ลองนึกว่าถ้าคุณเป็นผู้ชมเว็บ คุณจะทำอย่างไรกับหน้าต่างที่ป๊อบอัพขึ้นมาและกล่องโฆษณาที่เกลื่อนกลาดอยู่เต็มไปหมด
  2. โฆษณาที่แย่ กล่องโฆษณาที่น่ารำคาญอาจช่วยเพิ่มรายได้ให้คุณเพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่ในระยะยาวแล้ว มันไม่ทำให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จได้ อย่างไรก็ตาม การผนวกโฆษณาเข้ากับเนื้อหาของเว็บไซต์ และจัดโครงสร้างของเว็บให้ดีก็จะช่วยให้โฆษณานั้นไม่รบกวนผู้ชม มันจะช่วยให้เว็บของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นและยังช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่คุณ ได้ด้วย
  3. ให้ข้อมูลและสอนผู้ชมเว็บของคุณ แบ่งปันความคิด ไอเดีย ประสบการณ์ และความรู้ของคุณให้กับคนที่ต้องการหรืออาจจะต้องการคำแนะนำจากคุณ เมื่อคุณมีข้อมูลเหล่านี้ คุณก็มีเครื่องมือที่ทรงพลังที่จะดึงดูดความสนใจของมวลชนมาที่งาน ความสนใจ และบริการของคุณได้ นอกจากนี้แล้ว ถ้าคุณแบ่งปันความรู้ที่มีคุณค่ากับผู้ใช้คนอื่น คุณก็จะได้รับการเคารพนับถือว่าเป็นบุคคลที่รู้ว่าเขาหรือเธอกำลังพูดถึง อะไร
  4. สร้างสรรค์สไตล์ของคุณ สร้างสรรค์จากไอเดียของคุณ ทำให้ตัวคุณเกิดแรงบันดาลใจ แต่อย่าลอกเลียนแบบ มันน่าสนใจกว่ามากที่จะได้รู้ว่าคุณมีความสามารถอะไรแทนที่จะไปสนใจว่าคน อื่นมีความสามารถอะไร ค้นหาจินตนาการและความอยากรู้อยากเห็นของคุณเอง ไอเดียใหม่ๆ หรือไอเดียเก่าที่ถูกพัฒนาขึ้น ย่อมดึงดูดผู้ใช้เว็บมากกว่าของลอกเลียนแบบ
  5. ใส่ใจกับมาตรฐาน คิดถึงคนให้มาก การใช้มาตรฐานเว็บที่ดีจะช่วยลดงานของคุณในอนาคตลงได้มาก เมื่อคุณจะสร้างเว็บสำหรับคนทั่วไป มันจึงมีเหตุผลที่คุณจะใช้เวลาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่จะตรวจสอบโค้ดต่างๆ และทำให้มันเป็นมาตรฐาน เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานดีแล้ว คุณก็ไม่ต้องกังวลว่าในอนาคตจะมีเว็บบราวเซอร์เวอร์ชั่นใหม่เกิดขึ้นมาซึ่ง จะทำให้เว็บของคุณมีปัญหา นอกจากนี้เว็บของคุณจะต้องสามารถอ่านได้ง่าย (Readability) เข้าถึงได้ง่าย (Accessibility) และใช้งานง่าย (Usability) จำไว้ว่าคุณต้องนับถือผู้ชมเว็บของคุณ
  6. ใช้ข้อความที่ชัดเจน อย่ากลัวที่จะบอกว่าคุณต้องการสื่ออะไร ความคลุมเครือทำให้เกิดระยะห่างระหว่างคุณกับผู้ชมเว็บของคุณอย่างไม่จำเป็น ให้ใช้ข้อความที่เด่นชัดต่อผู้ชมเว็บถ้าคุณต้องการนำเสนออะไรให้แก่พวกเขา ถ้าคุณระบุให้ชัดเจนว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรอยู่ คุณก็จะได้รับผลตอบรับที่ดีหรือได้คำตอบของคำถามที่คุณสงสัย
  7. เกลียด Internet Explorer ได้ถ้าคุณอยาก แต่อย่าปฏิเสธผู้ใช้มัน อย่าออกแบบเว็บที่เหมาะสำหรับบางเว็บบราวเซอร์เป็นพิเศษ คุณควรออกแบบเว็บให้เหมาะสำหรับ Internet Explorer เหมือนกับที่ออกแบบให้กับบราวเซอร์อื่นๆ Internet Explorer อาจจะไม่ใช่บราวเซอร์ที่ดีที่สุด แต่ก็มีผู้ใช้เว็บถึง 85% ที่ใช้มันอยู่ ให้กลับไปดูกฎข้อที่ 1
  8. เอาใจใส่เนื้อหาของเว็บ สำหรับเว็บที่กำลังพัฒนา คุณจะต้องทำให้มันมีข้อมูลที่น่าสนใจและมีรูปลักษณ์ที่ดูดี อย่าลืมว่าผู้ชมเว็บของคุณจะจดจำทุกสิ่ง เมื่อคุณแสดงลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมแก่พวกเขาโดยที่ไม่มีข้อความ อธิบายว่ามีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้ลิงค์นั้น คุณก็จะไม่ได้เห็นผู้ชมเว็บเหล่านี้อีกเลย ถ้าโค้ดของเว็บไซต์เป็นร้อยกรอง เนื้อหาของเว็บไซต์ก็เป็นร้อยแก้ว
  9. อย่ากังวลมากกับ SEO อย่าไปมองในระดับคีย์เวิร์ด เพราะมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเว็บไซต์ของคุณต้องการนำเสนออะไร การพยายามเพิ่มตำแหน่งใน search engine นั้นเสียเวลามากกว่าการเขียนบทความที่มีประโยชน์ลงในบล็อกของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญ SEO คุณจะทราบว่าคุณต้องปรับแต่งเว็บไซต์ตลอดเวลาเพื่อให้มีอันดับที่ดีขึ้น ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณเขียนบทความที่ดี มันจะอยู่กับเว็บไซต์ของคุณไปตลอด
    หลีกเลี่ยงการทำ SEO และ PageRank แบบผิดๆ การทำ Search Engine Optimization ที่ไม่ถูกต้อง (การแลกเปลี่ยนลิงค์กับทุกเว็บไซต์บนเน็ตเท่าที่เป็นไปได้ การโพสต์ลิงค์ของคุณในเว็บรวมลิงค์ ฯลฯ) จะทำให้เว็บของคุณถูกแบนจาก search engine สำคัญๆ ในที่สุด อัลกอริธึมของ search engine ถูกปรับปรุงตลอดเวลา ท้ายที่สุดแล้วความพยายามของคุณก็จะไม่เกิดประโยชน์ และยังเสี่ยงที่ PageRank จะกลายเป็น 0
  10. ติดต่อ แต่อย่าสแปม ให้คนที่สนใจเนื้อหาของคุณได้รู้ว่าคุณมีเนื้อหานั้นๆ ต้องรู้ก่อนว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ จากนั้นให้เอาใจใส่กับคนที่อาจจะสนใจในบริการของเว็บคุณ นึกถึงเว็บไซต์ที่พวกเขาชอบเข้าไปชม แล้วติดต่อเจ้าของเว็บไซต์เหล่านี้เพื่ออธิบายถึงประโยชน์ของบริการของคุณ แต่จำไว้ว่าคุณไม่ได้เขียนถึงโปรแกรม แต่คุณกำลังเขียนถึงมนุษย์ ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะแบ่งปันบริการของคุณให้กับผู้ชมเว็บของเขาหรือ ไม่ จำไว้ว่าจะส่งลิงค์ แต่ให้ส่งคำเชิญชวนที่มีข้อความที่สุภาพที่อธิบายว่าเว็บของคุณมีอะไรที่แตก ต่างจากเว็บอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน ต้องมั่นใจว่าคนที่คุณเขียนถึงตระหนักได้ว่ามันสำคัญต่อผู้ชมเว็บของพวกเขา อย่างไร จงจำไว้ว่าคุณไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่ทำเพื่อผู้ใช้ อย่าสแปม อย่าโฆษณา แต่ให้เผยแพร่สิ่งที่มีประโยชน์
  11. ไม่ต้องเกรงใจที่จะถาม มีนักพัฒนาเว็บจำนวนมากที่เคย กำลัง หรือจะถามคำถามเดียวกับที่คุณมีอยู่ตอนนี้ อย่าลังเลที่จะถาม อย่าลังเลที่จะหาคำตอบ ยิ่งคำถามของคุณฉลาดมากเท่าไร คำถามนั้นก็มีโอกาสจะได้รับคำตอบมากขึ้นเท่านั้น และยังทำให้คนพบเว็บของคุณจาก search engine อีกด้วย
  12. ตอบอีเมลทันที ติดต่อกับลูกค้าที่มีศักยภาพของคุณให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ อย่าปล่อยให้อีเมลกองอยู่ใน inbox นานเกิน 12 ชั่วโมง อย่าส่งข้อความตอบกลับอัตโนมัติ คนที่เขียนข้อความถึงคุณรู้ว่าเขากำลังเขียนถึงคุณ อย่าทำให้คนอื่นเสียเวลาเช่นเดียวกับที่คุณไม่ทำให้ตัวเองเสียเวลา พยายามสร้างความประทับใจให้กับคนที่คุณติดต่อด้วย ตอบกลับอย่างมั่นใจ มืออาชีพ เป็นกันเอง และเป็นตัวของตัวเอง
  13. ใช้ประโยชน์ของ social bookmark อย่ากลัวที่จะเผยแพร่เว็บไซต์ของคุณผ่าน Digg, Reddit, Furl, del.icio.us, Ma.gnolia, Blinklist และเว็บไซต์ social bookmark อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ให้เลือก tag ที่จะใช้ในเว็บเหล่านี้อย่างระมัดระวังซึ่งจะทำให้ผู้ชมเว็บเข้ามาที่เว็บ ของคุณ และถ้า tag ถูกเลือกใช้อย่างมีเหตุมีผล ไม่เพียงแต่จะมีผู้ชมเว็บเข้ามาเท่านั้น แต่คุณยังสามารถโน้มน้าวให้พวกเขาช่วย tag บทความของคุณใน social bookmark ต่อด้วย
  14. สร้างความสัมพันธ์ นักพัฒนาเว็บที่สร้างสรรค์มักจะได้รับการสนับสนุนจากบล็อกของนักพัฒนาเว็บด้วยกัน
  15. คิดในระดับโลก ข้อมูลในเว็บของคุณอาจจะไม่ดึงดูดคนในประเทศของคุณ แต่โลกของเว็บนั้นไร้ขอบเขต แล้วทำไมคุณไม่สื่อสารกับคนทั้งโลกล่ะ? ไม่จำเป็นต้องหาตลาดเฉพาะ (niche) ที่ใกล้ตัวคุณ ในเมื่อคุณมีโอกาสที่ไม่จำกัดอยู่ทั่วโลก
  16. อย่าแหกหลักการ ควรพูดคุยกับลูกค้าถึงแนวทางที่เว็บไซต์ควรถูกนำเสนอหรือพัฒนาขึ้น ให้ความเคารพกับมุมมองของลูกค้า แต่จงจำไว้เสมอว่าคนที่พัฒนาเว็บคือคุณ อย่าทำเพียงเพราะว่าคุณถูกสั่งให้ทำ ให้แก้ไขข้อผิดพลาดถ้าคุณพบว่าลูกค้าผิด จงเป็นมืออาชีพ เพราะในท้ายที่สุดแล้วคุณสร้างเว็บเพื่อผู้ใช้ ไม่ใช่เพื่อลูกค้าของคุณ
  17. ติดตามข่าวสารสม่ำเสมอ ตื่นตัวตลอดเวลาว่ามีอะไรเกิดขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ต เว็บถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีไอเดียใหม่ๆ ออกมาเสมอ อย่างไรก็ตาม นิตยสารด้านการออกแบบและพัฒนาเว็บก็คุ้มค่าที่จะอ่าน
  18. เรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ ค้นหาไอเดียใหม่ๆ ตลอดเวลา พยายามเข้าไปอ่านตามกระดานข่าวของนักพัฒนาเว็บ มุ่งความสนใจของคุณไปยังสิ่งที่ผู้คนกำลังค้นหาและพูดถึงกันอยู่
  19. ทำเว็บให้สวยขึ้น CSS ดีไซน์ที่โปร่งตา อ่านง่าย และดูชาญฉลาด คือความสวยงาม
  20. ตระหนักถึงพลังอำนาจของเว็บอยู่เสมอ ให้การสนับสนุนแก่โครงการที่สำคัญต่อคุณในอนาคต
Source : Blog.macroart.net2013, By: Seo Master

seo DoFollow และ NoFollow คืออะไร ? 2013

Seo Master present to you:
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO หรือการโปรเมทเว็บไซต์ของเราก็คือ Backlink ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับ Backlink กันให้มากขึ้นว่าเราไปสร้าง Backlink เพื่อโปรโมทกับเว็บไซต์ต่างๆนั้นเราได้เป็น Backlink ประเภทไหนกันครับ Backlink แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทก็คือ Backlink แบบ DoFollow และแบบ NoFollow
เรามาเริ่มต้นกันที่ DoFollow ก่อนละกันครับ Backlink ประเภทนี้เป็นลิงค์ที่ถือว่าดีที่สุดในการทำ SEO เพราะว่าเราจะได้รับทั้ง Traffic จากการที่เราฝากลิงค์ไว้และได้รับความสนใจจากผู้พบเห็นคลิ๊กตามลิงค์มา อย่างที่สอง RoBot เราจะได้ Robot หรือ Spider ของ Serch Engine ที่เข้ามาเก็บข้อมูลหน้า Page ที่เราฝากลิงค์นั้นๆไว้ไต่ตามลิงค์มาที่เว็บไซต์ปลายทางของเราเพื่อทำการเก็บข้อมูล หรือ Index และเปลี่ยนมาเป็น Backlink อย่างที่สาม เราจะได้รับการคำนวนค่า PR หรือ PageRank ค่าคะแนนจากเว็บต้นทางด้วย เพราะฉะนั้นถือได้ว่าลิงค์ประเภท DoFollow เป็น Backlink ที่เหมาะที่สุดและเยี่ยมสุดในการทำ SEO
รูปแบบลิงค์ชนิด DoFollow <a href=”http://yourwebsitename”>yourlinkname</a>
ที่นี่เรามาดูลิงค์แบบ NoFollow ลิงค์ประเภทนี้เราจะได้รับ Traffic จากการที่เราฝากลิงค์ไว้กับเว็บไซต์ต้นทางคล้ายลิงค์แบบ DoFollow รวมทั้ง เราจะได้รับการเก็บข้อมูลจาก Robot ของ Serch Engine ไต่ตามลิงคค์ตามเข้ามาเก็บข้อมูล หรือ Index ข้อมูลของเราและเป็น Backlink แต่ข้อแตกต่างจากลิงค์แบบ DoFollow ก็คือ เราจะไม่ได้รับการคำนวนค่า PR (PageRank) หรือค่าคะแนนของ Page จากเว็บต้นทางครับ
รูปแบบลิงค์ชนิด NoFollow <a rel=”nofollow” href=”http://yourwebsitename”>yourlinkname</a>2013, By: Seo Master

seo ความสำคัญของ BackLink 2013

Seo Master present to you:
ปัจจัยที่สำคัญในอันดับต้นๆของหลายๆตัวแปรในการทำอันดับกับ Search Engine ชื่อดังอย่าง Google หรือ Search Engine ชื่อดังของค่ายอื่นๆ ก็คงหนีไม่พ้น BackLink เพราะ Search Engine ทั้งหลายจัดอันดับการให้คะแนน และคุณค่าของเว็บไซต์ ส่วนหนึ่งก็มาจากจำนวนของ BackLink นั้นเอง ซึ่งการจะขึ้นไปอยู่ในอับดับที่ดีของเครื่องมือค้นหา ก็คือการหา BackLink เข้ามาที่เว็บไซต์เป็นจำนวนมาก แต่ BackLink ที่เข้ามาก็ควรเป็น BackLink ที่มีคุณภาพหรือมีเนื้อหาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งตรงนี้ Search Engine จะให้คะแนนความน่าเชื่อถือและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก การมี BackLink เป็นจำนวนมากนอกจากจะทำให้ผลการค้นหาดีขึ้น Robot เข้ามาเก็บข้อมูลบ่อยขึ้นแล้ว ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะให้ผู้ชม หรือผู้ที่สนใจแวะเวียนเข้ามาที่เว็บไซต์เราอีก ด้วยการ Click ตาม Link เข้ามา อย่างไรก็ตามนอกจากการหา BackLink คุณภาพแล้วเรายังจะต้องปรับปรุงเว็บไซต์ และ UpDate เนื้อหา (Unique Content) ของเราให้ดีขึ้น มีคุณภาพขึ้นเรื่อยๆ ให้สอดคล้องกับการหา BackLink แบบธรรมชาติ ถ้าทำได้อย่างนี้ อันดับผลการค้นหาที่ดีขึ้นก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ ConFirm!!2013, By: Seo Master

seo ปัจจัยการทำ SEO ที่เกี่ยวข้องกับ Domain และ Site ตอนที่ 2 2013

Seo Master present to you:
Domain Presence In Google News
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมเผยแพร่บริการข่าวของ Google News
Domain Presence In Google Blog Search
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการการมีส่วนร่วมหรือผลมีผลการค้นหาใน Google Blog Search ประเภท Feed
Use Of The Domain In Google Analytics
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการใช้ลงทะเบียนใช้งาน Google Analytics
Server Geographical Location
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภูมิภาค หรือภูมิศาสตร์ที่อยู่ที่ตั้งของเซิร์ฟเวอร์ เกี่ยวข้องกับผลการค้นหา
Server Reliability/Uptime
ปัยจัยที่เกี่ยวข้องกับความเสถียรภาพที่ดีของเซิร์ฟเวอร์ไม่ล่มบ่อย ให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
PageRank Of A Page (The Actual PageRank, Not The Toolbar PageRank)
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับค่าคะแนนจริงๆของ PageRank ที่ตรวจสอบจริง
The Speed Of The Website
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความเร็วของการเรียกข้อมูลของเว็บไซต์
Reputable Hosting Company
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือของโฮสที่ให้บริการ เปิดให้บริการมานาน
Geo-Located Results
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ตั้ง ประเทศ ภูมิภาค ของผลการค้นหา
An Active Google Adsense Campaign
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมบริการของ Google Adsense
The Number Of Pages On The Topic Related
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับจำนวนเนื้อหาบทความข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน
Wikipedia Listing?
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมีรายชื่อมีข้อมูลอยู่ใน Wikipedia
Listed in DMOZ?
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการมีรายชื่ออยู่ใน Web Directory DMOZ
Number Of Pages Within Site (More Is Better)
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับจำนวนหน้าภายในเว็บไซต์ทั้งหมดยิ่งเยอะเท่าไหร่ยิ่งดี
Website Size (Bigger Is Better)
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับขนาดของเว็บไซต์ยิ่งใหญ่ยิ่งดี2013, By: Seo Master

seo ปัจจัยการทำ SEO ที่เกี่ยวข้องกับ Domain และ Site ตอนที่ 1 2013

Seo Master present to you:
ปัจจัยการทำ SEO ที่เกี่ยวข้องกับ Domain และ Site
1. Domain age
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับอายุของโดเมนยิ่งเก่าเท่าไหร่ยิ่งมีความน่าเชือถือมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเก่ายิ่งดี
2. Length of Domain Registration
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับความยาวของตัวอักษรของชื่อโดเมนที่ใช้ลงทะเบียนควรที่จะสั้นๆแต่ได้ใจความไม่ยาวจนเกินไป
3. Domain Registration Information Hidden/Anonymous
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลการเปิดเผยข้อมูลการลงทะเบียน Domain โดนปิด หรือซ่อนไว้ และไม่ระบุชื่อผู้จดทะเบียนโดเมน
4. Site Top Level Domain (Geographical Focus E.G. Com Versus Co.uk)
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับโดเมนระดับบนสุด ดูปัจจัยตามภูมิภาค ภูมิศาสตร์ หรือตามประเทศนั้นๆ เช่นเปรียบเทียบ .Com กับ .Co.uk จะดูมีความน่า เชื่อถือ และอันดับที่ดีกว่าถ้า Search Google ในประเทศ UK ภูมิภาค หรือภูมิศาสตร์นั้นๆ
5. Site Top Level Domain (E.G. .Com Versus .Info)
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับโดเมนระดับบนสุดของโดเมน เช่น .Com เปรียบเทียบกับ .Info หรือโดเมนสกุลต่างๆ ความหมาย .Com น่าจะมีความน่าเชื่อถือในสายตาของ Search Engine อย่าง Google มากกว่า .Info
6. Sub Domain or Root Domain?
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์อยู่ใน Main Root หรือ Subdomain
7. Domain Past Records (How Often it Changed IP)
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง IP บ่อยแค่ไหน หรือว่าย้ายที่อยู่ Host บ่อยๆนั่นเอง
8. Domain Past Owners (How Often The Owner Was Changed)
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับความถี่ของการเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนมือเจ้าของโดเมนที่ผ่านมาว่าบ่อยแค่ไหน
9.Keywords In The Domain
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการมีคีย์เวิร์ดผสมอยู่ใน Domain Name
10. Domain IP
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับ IP ของโดเมน
11. Domain IP Neighbors
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับ IP ของโดเมนเพื่อนบ้านที่เชื่อมกัน
12. Domain External Mentions (Non-Linked)
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการอ้างอิงถึงโดเมนภายนอก ซึ่งไม่ใช่ลิงค์
13. Geo-Targeting Settings in Google Webmaster Tools
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่าระบุ ภูมิภาค หรือภูมิศาสตร์ใน Google Webmaster Tools
14. Domain Registraction With Google Webmaster Tools
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับการลงทะเบียนโดเมนกับ Google Web Master Tools
15. The Page Rank of The Entire Domain
ตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับค่า PageRank ภายใน Domain ทั้งหมด2013, By: Seo Master

seo TrustRank คืออะไร ? 2013

Seo Master present to you:
เป็นที่ทราบดีกันอยู่แล้วในเหล่านักทำ SEO หรือ Search Engine Optimizer ทั้งหลายสำหรับ PageRank ที่กูเกิลคิดค้นขึ้นมาสำหรับจัดระดับให้แต้มหน้าเพจหรือหน้าเว็บที่มีประสิทธิภาพ แต่หลังจากที่นำระบบ PageRank ออกมาใช้งานได้ซักพักนึงก็พบว่ามีข้อบกพร่องอยู่หลายแห่ง ทั้งในเรื่องของกลโกง PageRank ด้วยการจัดทำ Network Link ของตัวเองขึ้นมา แล้วจับเว็บที่มีอยู่ลิงค์กันเองเพื่อโอน หรือถ่ายเทคะแนน PageRank จึงทำให้ทางกูเกิลต้องคิดค้น และพัฒนาสร้าง TrustRank ขึ้นมา เพื่อปราบปรามกลุ่มบรรดานักทำ SEO สมองใสทั้งหลาย โดยแนวคิดของการให้ TrustRank นั้น จะทำโดยฐานรากที่ว่า เว็บที่มีประสิทธิภาพทั้งหลายจะไม่ยอมทำลิงค์ไปหาเว็บที่ไร้คุณภาพโดยเด็ดขาด ด้วยเหตุนี้ทางกูเกิลจึงทำการเลือกสรรเว็บไซต์ที่กูเกิลคิดว่ามีคุณภาพขึ้นมา เว็บไซต์ที่ได้รับการคัดเลือกจะมีค่า Trust Score ที่สูงมาก โดยเรียกเว็บไซต์เหล่านี้ว่า Seed Site สำหรับ Seed Site นั้นจะมีหน้าที่ส่งลิงค์ไปยังเว็บไซต์ที่มีคุณภาพเพื่อเพิ่มค่า Trust Score ให้เว็บไซต์เหล่านั้น หากเว็บไซต์ใดได้รับลิงค์แบบ DoFollow Link จาก Seed Site แล้ว จะทำให้เว็บไซต์นั้นๆได้ค่า Trust Score สูงตามไปด้วย แต่หากเราทำลิงค์ออกไปยังเว็บไซต์อื่นๆบ่อย หรือมากเกินไป ค่า Trust Score ที่เราได้ ก็จะรั่วไหลออกไปหาเว็บอื่นๆด้วยเช่นกัน และในทำนองเดียวกัน หากเราได้ลิงค์จากเว็บไซต์ที่ได้รับค่า Trust Score จากเว็บ Seed site เราก็จะได้ Trust Score ด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่า TrustRank นั้นไม่ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเล่นๆแน่นอน มันจะถูกนำไปประมวลเพื่อจัดระดับการแสดงผลในกูเกิลด้วย และอาจจะมีน้ำแต้มคะแนนที่สูงขึ้นเรื่อยๆต่อไปในภายภาคหน้า สำหรับเว็บไซต์ที่ได้รับคัดสรรให้เป็น Seed site จากกูเกิลนั้นเท่าที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปก็ได้แก่ เว็บไดเรคทอรีอย่าง Dmoz.org และ Yahoo Directory ถ้าเทียบจำนวนรวมแล้วในโลกนี้มีเว็บเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับคัดเลือกให้เป็น Seed site2013, By: Seo Master
Powered by Blogger.