Les nouveautés et Tutoriels de Votre Codeur | SEO | Création de site web | Création de logiciel

seo 10 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำ SEO ตอนที่ 2 2013

Seo Master present to you:
6. อย่าเชื่อผู้อื่นมากเกินไป ในการทำ SEO นั้น ทักษะ เกิดจากการปฏิบัติด้วยตนเอง การเชื่อคำกล่าวอ้าง หรือแม้ตำราโดยไม่ลองทำเอง อาจไม่ได้ผลตามที่กล่าวอ้าง บางครั้ง ปัจจัยต่างๆ ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น ระบบการทำ Link Wheel ที่อ้างกันว่าเป็นระบบที่ดี ในบางครั้งกลับกลายเป็นฆ่าตัวเองเพราะ Link Wheel เหล่านั้นมาจากโฮสต์ IP และผู้ทำเว็บชุดเดียวกัน กลับกลายเป็น wheel ซ้อน และเป็นลิงค์ย้อนกลับหรือ ลิงค์แบบสามเหลี่ยม ไร้ประโยชน์เลยก็ได้ หรือแม้กระทั่งข่าวที่ีการเปลี่ยน Algo ทั้งหลายทั้งปวง อาจไม่มีผลต่อสิ่งที่เราทำมาเลยก็ได้

7. SEO เป็นเรื่องที่ยาก ต้องจ้างคนทำ อันนี้ผิด ที่จริงแล้ว แค่เพียงเข้ามาอ่านหาความรู้ ไม่กี่สัปดาห์ ก็สามารถเข้าใจได้เกือบ 80% เนื่องจากตำราอ้างอิงเป็นจำนวนมาก (และล้วนเอามาจากที่เดียวกันด้วย) สิ่งที่เรารู้คือ Know How เท่าๆกัน แตกต่างกันที่การลงมือทำเท่านั้นเอง ผมเชื่อว่า ถ้าลงมือทำ เราทำกันได้ทุกคน จะมากหรือน้อยก็ว่ากันไป และสิ่งที่เราทำจะเพิ่มพูนทักษะอยู่ตลอด แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง เราจะเริ่มคิดเองว่า การทำ SEO นั้น แท้จริงคือการตกแต่งกล่องขนมให้น่ากินเท่านั้นเอง แต่รสชาตขนมนั้นคืออีกเรื่อง !

8. ทำ SEO ให้ดี ต้องมีเงินเท่านั้น อันนี้ผิดมหันต์ทั้งผู้ทำ และผู้จ้าง ขอเพียงเวลา จิตใจที่มุ่งมั่น หลักการที่ดี ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมาย ถ้าปรับแต่งถูกจุด ตอบสนองคำถามที่ว่า – ทำอย่างไรเว็บจะเหมาะกับการเข้ามาอยู่ในหน้าแรกได้ – การปรับแต่งแบบที่ไม่ต้องใช้เงิน เป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่มีผู้ศึกษาและปฏิบัติ ขอเพียงค้นหา และเข้าถึง เราก็สามารถทำได้

9. SEO ง่ายๆ ใครก็ทำได้ ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดเช่นกัน โดยเฉพาะน้องใหม่ไฟแรง แต่โหมไฟแรงเกินไปย่อมได้รับประสบการณ์เจ็บปวดไปตามๆกัน มันจะมี Timing อันหนึ่งที่ทดสอบมือใหม่ ซึ่งถ้าผ่านไปได้ก็จะสามารถทำ SEO ให้ดีได้เฉกเช่นเดียวกับมือเก่า SEO นั้นง่ายพอๆกับการเปิด Windows และยากพอๆกับการหาจุดบกพร่องใน Windows ดังนั้น การเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาหาจุดบกพร่อง และลงมือแก้ไข คือสิ่งที่ SEO มือใหม่ต้องกระทำ

10. นักทำ SEO มักจะร่ำรวยและมีความเต็มใจในการทำ SEO ไม่ว่าโจทย์จะเป็นอย่างไร ถ้าจ่ายถึง ลองหาคำตอบจากตัวคุณเองและผู้อยู่รอบข้างดูครับว่าจริงทุกคนไหม วลีอมตะอยู่อันหนึ่งคือ ถ้า Big Daddy ไม่รักทำให้ตายก็ไม่ติด กับอีกอันหนึ่งคือ ถ้าคุณร่ำรวยจากการทำ SEO ได้ จะไม่ง่ายกว่าหรือถ้าจะปรับแต่ง SEO เพื่อหาความร่ำรวยจากเว็บของตัวเอง?

เครดิต seo.thaihealth2013, By: Seo Master

seo 10 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำ SEO ตอนที่ 1 2013

Seo Master present to you:
กระบวนการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization นี้ มีผู้เข้าใจผิดอยู่มากมาย ถึงขั้นมองเห็นแบบตรงข้ามกับที่เหล่านักทำ SEO ทำกันเลยทีเดียว เราลองมาดูกันบ้างว่าความเข้าใจผิดต่อการทำ SEO ที่ผู้ที่ไม่รู้หรือแม้แต่ผู้ที่รู้ ก็ยังเข้าใจผิดอยู่ตลอด

1. ความเชื่อที่ผิดคือ SEO คือการทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แบคลิงค์ แม้ว่า แบคลิงค์จะมีคุณค่า แต่การทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แบคลิงค์ ไม่ว่าจะเป็นการสแปม หรือโพสในเว็บที่ไม่เกี่ยวข้อง สิ่งที่ทำให้วงการ SEO เป็นที่ติเตียนของนักท่องเว็บ หรือนักทำเว็บ ก็คือการสแปมไปทั่ว ยกตัวอย่างเช่นการโพสในเว็บบอร์ดในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง ปั๊มกระทู้ สแปมคอมเมนท์ หรือแม้กระทั่วเว็บ Social Network ก็ตกเป็นเป้าของนักสแปม จนกระทั่งมีคำกล่าวที่น่าตกใจจากนักทำเว็บโฮสติ้งว่า ‘SEO คือการสแปม’ ทั้งๆที่ที่จริงแล้ว แบคลิงค์ที่เราควรจะได้คือแบคลิงค์แบบธรรมชาติ ในเว็บที่เกี่ยวข้องต่างหาก นอกจากการสแปมแล้ว สิ่งที่เป็น Controversy หรือข้อโต้แย้งที่ใหญ่ที่สุดของกระบวนการการได้มาของลิงค์คือ การซื้อขายลิงค์ ทั้งทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งถ้ามองในแง่ความจริง การซื้อขายลิงค์ก็ถือเป็นกลไกธรรมชาติอย่างหนึ่ง ในระบบทุนนิยม แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่มากไปจนผิดธรรมชาติ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อการบิดเบือนธรรมชาติของการค้นหาโดย Search Engine เช่นกัน อย่าลืมว่า Search Engine ถือว่าหน้าเว็บค้นหาของเขาคือหน้าบ้าน ถ้าหากมีการเบี่ยงเบนจากเว็บที่มีเงิน แต่ไม่มีคุณภาพ มาหน้าแรกมากๆ ย่อมส่งผลเสียต่อความนิยมของ Search Engine อย่างไม่ต้องสงสัย ดังที่ Matts Cutts วิศวกรของ Google เคยเปรยเอาไว้ว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องควบคุมการซื้อขายลิงค์ และเปิดรับแจ้งเรื่องไปยัง Google อย่างเป็นระบบ

2. ความเชื่อที่ว่าเว็บที่ติดอันดับดี จาก SEO ย่อมจะดีมีคุณค่ากว่า อันนี้เห็นๆกันจากข้อแรกว่า เมื่อมีการปรับแต่งอย่างเต็มที่ เว็บที่ธรรมดา หรือคุณภาพด้อย ก็อาจเข้ามาอยู่ในหน้าแรกๆได้เช่นกัน ถ้ามีเงิน มีเครือข่าย อันนี้ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทาย Search Engine อยู่ตลอดมาว่าจะทำอย่างไรจึงจะกรองเอาเนื้อหาที่คนใช้ต้องการ อย่างแท้จริง มาอยู่หน้าแรก จะเห็นได้ว่าทรัพยากรจำนวนมากของ Search Engine มากองอยู่ที่การปรับเปลี่ยน Algorithm เพื่อกรองเอาเว็บคุณภาพด้อยเหล่านั้นออกไป

3. ความเชื่อที่ว่า SEO คือการสร้างเว็บ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดจะขาดไปเสียมิได้ จริงอยู่ที่ว่าปัจจุบันเว็บดีๆถึงดีมาก แต่ไร้ซึ่งการปรับแต่งแบบ SEO ก็เปรียบเสมือนเพชรที่อยู่ในทะเลลึกยากจะมีคนเข้าหา การทำเว็บแบบสมัยใหม่ อาศัยปากต่อปาก การจะเกิดมาในโลกออนไลน์ค่อนข้างยาก ยกเว้นว่าจับกลุ่มได้ถูกต้อง นักทำเว็บไซต์รุ่นใหม่จึงหันมาสร้างความโดดเด่นทางด้าน SEO การทำเว็บให้ดี สำคัญกว่าการปรับแต่ง SEO ซึ่งอาจใช้เงินจำนวนมาก อย่าละเลยพื้นฐานของเว็บไซต์ที่ดี นั่นคือ เนื้อหา หน้าตาของเว็บ ความถูกต้อง ระบบบนำทางที่ดี การดีไซน์ที่ดีหรือมีเอกลักษณ์ และเนื้อหาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่สำคัญคือการสร้าง SEO ไม่สามารถสร้าง Brand ได้ จะเห็นว่า Brand ดังๆ ไม่ได้เกิดมาจาก SEO หรือไม่ได้สนใจเรื่องของ SEO เลยด้วยซ้ำ แต่ผู้คนจะกล่าวถึงความประทับใจในจุดอื่นๆ และรายละเอียดอื่นๆ  ของเว็บไซต์

4. การปรับแต่ง SEO ต้องทำอยู่ตลอดเวลาห้ามหยุด อันนี้ก็เป็นความเข้าใจผิดเช่นกัน นักทำ SEO ที่ดีจะรู้จุดและเวลา จะต้องประมาณตน และคิดเสมอว่า การใส่ปุ๋ยที่มากไป ก็จะมีโทษได้เหมือนกัน การเพิ่มแบคลิงค์อย่างรวดเร็ว การทำ Onpage อย่างขมักเขม้นทุกจุด การปรับแต่งทุกวันสำหรับ Keyword Density หรืออื่นๆ เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงถ้าไม่รู้จักการประมาณเวลา หรือ Timing ว่า Search Engine มี Time Cycle ในการ เข้าถึงเว็บเราถี่เพียงใด มีการปรับปรุงดาต้าเบสและผลการค้นหาถี่บ่อยแค่ไหน มันจะยิ่งยุ่งยากถ้าเราคำนวนถึงจุดที่ว่า Search Engine มาเก็บหน้าแบคลิงค์ที่มีเว็บเราด้วยในอัตราเท่าไร ดังนั้น การทำ SEO ที่ดี เหมือนการขับขี่รถที่ต้องมีการกดคนเร่ง ปล่อยคันเร่ง แตะเบรค ชลอ เพื่อดูว่า สิ่งที่เราปรับจูนนั้นๆ มันถึงจุดที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหรือยัง หรือว่าทำมากเกินไป

5. ปรับแต่งเต็มที่แล้วมักจะได้ผลเสมอ อันนี้เป็นสิ่งที่นักทำ SEO ทราบกันดีว่า การปรับแต่งแม้แต่เหมือนกัน 100% ก็ไม่เสมอไปที่จะทำให้อันดับใกล้เคียงกัน 100% อันนี้เป็นสิ่งที่เรียกกันเล่นๆว่า แล้วแต่คนกด หมายถึงว่า ในบางขณะ Search Engine ก็มีการเข้ามา Manipulate โดยคน (อันนี้อาจไม่ใช่จากคนกดปุ่ม แต่อาจหมายถึงปุ่มบุคมาร์คหรือปุ่มโหวตบนโปรแกรมฝังตัวที่ Google เก็บข้อมูลจาก Users ทุกคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์) สิ่งนี้สะท้อนกลับมาถึงข้อจำกัดหลายๆอย่าง อย่างแรกคือการทำ SEO บางทีไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว อย่างที่สองคือ สูตรที่มีผู้คิดนั้น เปลี่ยนไปมาตลอดเวลา

เครดิต seo.thaihealth2013, By: Seo Master

seo เทคนิคการโปรโมทเว็บ และ Blog ให้ติดอันดับด้วย SEO ขั้นพื้นฐาน ตอน 1 2013

Seo Master present to you: Promote Blog & Web

การโปรโมทเว็บ Blog หรือ Web ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่จะเอาดีในด้านการให้ข้อมูลอย่างมืออาชีพ ด้วยเหตุที่ว่าเราจะสร้างเว็บ หรือ Blog มาทำไมในเมื่อไม่อยากให้ใครเห็น หรือ ใครพบเว็บ หรือ บล็อกของเรา


ในการเขียนบล็อก หรือ เว็บไซต์นั้น สำหรับธุรกิจโดยทั่วไปย่อมหวังที่จะให้ได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีมา Internet ก็คืออีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้เกิดช่องทางในการนำเสนอสินค้าและบริการ สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป แต่ด้วยเหตุที่ในการนำเสนอสินค้าและบริการต่าง ๆ เหล่านั้นต่างก็มีผู้ประกอบการต่าง ๆ มากมายนำเสนอเช่นเดียวกันเป็นจำนวนมากหลายหมื่นหลายล้านเว็บไซต์ทั่วประเทศ เครื่องมือค้นหาอย่าง Search Engine? ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น จึงมีการนำเสนอโฆษณารูปแบบ PPC แต่ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทุก ๆ เดือนไปตลอดที่มีการโฆษณา เมื่อใดก็ตามที่ไม่มีการโฆษณาเว็บของเรา หรือ Blog ของเราก็จะหายไปในบัดดล เว้นแต่ว่าคุณได้ทำการปรับปรุงและพัฒนาการทางด้าน SEO มาก่อนที่จะหยุดทำการโฆษณานั้น ๆ จนติดหน้าแรกไปแล้ว

การโปรโมทเว็บเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องมีการวางแผนที่ ดี แต่ก็อาจเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งบางครั้งอาจมองว่าไม่คุ้มกับการ โปรโมทเว็บ หรือ โปรโมทบล็อก ด้วยซ้ำไปวันนี้ จะนำเสนอเรื่องราวทางด้านเทคนิคในขั้นพื้นฐานสำหรับการโปรโมทเว็บ หรือ โปรโมท Blog กันครับที่ประหยัดเวลาและไม่ต้องเสียเงินในการโปรโมทด้วยครับ

เครดิต Makemany 2013, By: Seo Master

seo ประเภทของ Search Engine ? 2013

Seo Master present to you:


ประเภทของ Search Engine ก็มีอยู่หลาย ๆ ประเภท ดังนี้

1. แบบอาศัยการเก็บข้อมูลเป็นหลัก (Crawler-Based Search Engine)
หลักการนี้เป็นการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Crawler-Based Search Engine เป็นเครื่องมือที่ทำการบันทึกและเก็บข้อมูลเป็นหลัก ซึ่งเป็นประเภท Search Engine ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน

ซึ่งการทำงานประเภทนี้ จะใช้โปรแกรมตัวเล็ก ๆ ที่เรียกว่า Web Crawler หรือ Spider หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Search Engine Robots หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า บอท ในภาษาไทย www คือเครือข่ายใยแมงมุม ตัวโปรแกรมเล็ก ๆ ตัวนี้ก็คือแมงมุมนั่นเอง โดยเจ้าแมงมุมตัวนี้จะทำการไต่ไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลกอินเตอร์เน็ต โดยอาศัยไต่ไปตาม URL ต่าง ๆ ที่มีการเชื่อมโยงอยู่ในแต่ละเพจ แล้วทำการ Spider กวาดข้อมูลที่จำเป็นต่าง ๆ (ขึ้นอยู่กะ Search Engine แต่ละที่ว่าต้องการเก็บรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง) แล้วเก็บลงฐานข้อมูล การใช้โปรแกรมกวาดข้อมูลแบบนี้ จึงทำให้ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำ และสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลได้เร็วมาก Search Engine ที่เป็นประเภทนี้ เช่น Google Yahoo MSN

2. แบบสารบัญเว็บไซต์ (Web Directory)
Search Engine ที่เป็นแบบนี้มีอยู่หลายเว็บไซต์มาก ๆ ที่ดังที่สุดในเมืองไทย ที่เอ่ยออกไปใครใครคงต้องรู้จัก นั้นก็คือที่สารบัญเว็บของ Sanook.com ซึ่งหลาย ๆ คนคงเคยเข้าไปใช้บริการ หรืออย่างที่ Truehits.com เป็นต้น

ส่งที่เราจะสังเกตเห็นจาก Search Engine ประเภทนี้ก็คือ ลักษณะของการจัดเก็บข้อมูลที่แสดงให้เราเห็นทั้งหมด ว่ามีเว็บอะไรบ้างอยู่ในฐานข้อมูล ซึ่งแตกต่างจากประเภทแรก ที่หากคุณไม่ค้นหาโดยใช้คำค้น หรือ Keyword แล้ว คุณจะมีทางทราบเลยว่ามีเว็บไซต์อะไรอยู่บ้าง และมีเว็บอยู่เท่าไหร่

แบบสารบัญเว็บไซต์ จะแสดงข้อมูลที่รวบรวมเว็บไซต์ที่มีทั้งหมดในฐานข้อมูล และจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ และอาจจะมีหมวดหมู่ย่อย ซึ่งผู้ค้นหาข้อมูลสามารถคลิกเข้าไปดูได้

หลักการทำงานแบบนี้ จะอาศัยการเพิ่มข้อมูลจากเจ้าของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์เว็บ หรืออาจใช้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลส่วน Search Engine เป็นผู้หาข้อมูลเว็บไซต์มาเพิ่มในฐานข้อมูล ซึ่งข้อมูลในส่วนของสารบัญเว็บไซต์จะเน้นในด้านความถูกต้องของฐานข้อมูล ซึ่งข้อมูลเว็บไซต์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะถูกตรวจสอบและแก้ไขจากผู้ดูแล

3. แบบอ้างอิงในคำสั่ง Meta Tag (Meta Search Engine)
Search Engine ประเภทนี้จะอาศัยข้อมูลใน Meta tag (อยากรู้ดูในบทความหน้า) ซึ่งเป็นส่วนของข้อมูลที่อยู่ในแท็ก HEAD ของภาษา HTML ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้ จะเป็นส่วนที่ให้ข้อมูลกับ Search Engine Robots

Search Engine ประเภทนี้ไม่มีฐานข้อมูลของตนเอง แต่จะอาศัยข้อมูลจาก Search Engine Index Server ของที่อื่น ๆ ซึ่งข้อมูลจะมาจาก Server หลาย ๆ ที่ ดังนั้น จึงมักได้ผลลัพธ์จากการค้นหาที่ไม่แม่นยำ

เครดิต thainextstep2013, By: Seo Master
Powered by Blogger.